ผวจ.กาญจนบุรี สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังเจ้าของบ้านนับสิบหลัง เดือดร้อนหนัก เจ้าของที่ข้างบ้านถมดินสูงเท่าหลังคา น้ำท่วม-ปิดทางลม ร้องเรียนไปหลายครั้ง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า จนบางคนประกาศขายบ้าน


วันที่ 3 พ.ย. 64 จากกรณี โลกโซเชียล มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพและข้อความในกลุ่ม คนดีไซน์ ระบุว่า "เพื่อนบ้านถมดินสูงเกินรั้วเดิม จนเราต่อรั้วสีแดงขึ้นไปเพื่อกันดินหล่นระหว่างถม แต่ดินเขาก็สูงเกินระดับรั้วที่ต่ออีกรั้วบ้านเขาก็สูงเกินหลังคาบ้านเรา หันด้านอิฐบล๊อกมาน่าเกลียดมากค่ะ หมดความสวยงาม อยากขอไอเดียหน่อยนะคะ ว่าทำยังไงดีให้มันสวยขึ้นบ้าง"

โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่สงสัยว่า สามารถทำได้หรือ หากดินถล่มลงมา บ้านแถบนี้ ที่มีอยู่หลายหลัง อาจเกิดความเสียหายได้ รวมถึง หากมีฝนตกหนัก น้ำท่วม บ้านที่อยู่ต่ำกว่า อาจได้รับความเดือดร้อน


ต่อมา ผู้สื่อข่าวพบว่า พื้นที่ดังกล่าวที่เป็นปัญหา อยู่ภายในซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 

ซึ่งเมื่อช่วงเช้า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้ นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า นายธนพล เสือส่าน กำนันตำบลลาดหญ้า ลงพื้นที่ตรวจสอบ

...

พบ น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ ชาวบ้านที่เดือดร้อน พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวม 8 หลัง โดย น.ส.มธุรส เปิดเผยว่า ตนและคนอื่นๆ ได้มาซื้อบ้านอยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งที่ดินด้านหลังบ้าน เป็นที่ดินรกร้าง เจ้าของไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ กระทั่ง เจ้าของที่ดินดังกล่าว ได้ขายที่ดินให้กับเจ้าของรายใหม่ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า เจ้าของรายใหม่ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงพื้นที่รกร้างดังกล่าว โดยทำการตัดต้นไม้ ไถปรับพื้นที่ และมีการนำรถขนดินเข้ามาถมที่ดินจนสูงกว่าสามเมตร เทียบเท่ากับระดับหลังคาบ้านของชาวบ้าน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน

ที่ผ่านมา ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้เจ้าของที่ดินยุติการถมที่ดินที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยได้ยื่นร้องเรียนครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 แต่หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว แทนที่เจ้าของที่ดินจะหยุดการถมที่ แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าของที่ดิน ได้สร้างกำแพงสูงขึ้นมาบนที่ดินที่ถูกถมใหม่ ซึ่งกำแพงดังกล่าวก็สูงจนมิดหลังคาบ้านของชาวบ้าน อีกทั้งในช่วงที่มีฝนตก ปรากฏว่า น้ำจากที่ดินที่มีการถมใหม่ได้ไหลทะลุกำแพงปูนที่เจ้าของที่ดินสร้างขึ้น ไหลเข้ามาท่วมในบ้านจนเดือดร้อน นอกจากนี้ น้ำที่ท่วมยังทำให้ที่ดินยุบตัว จนเกิดความเสียหายกับตัวบ้านหลายจุด



น.ส.มธุรส เล่าต่อว่า กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน จึงเดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสภาทนายความจังหวัดกาญจนบุรี ทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำเรื่องร้องเรียนยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย รวมถึงยื่นเรื่องถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาธิการ รวมแล้วกว่า 6 ครั้ง แต่ปัญหาดังกล่าวก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็ทำได้เพียงเรียกเจ้าของที่ดินมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาวบ้าน ซึ่งเจ้าของที่ดินก็เพียงรับปากว่า จะทำการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำที่รั่วทะลุกำแพงให้กับชาวบ้าน แต่ก็ไม่เคยทำการแก้ไขใดๆ ตามที่รับปาก ขณะที่ทางเทศบาลก็ได้มีคำสั่งให้เจ้าของที่ดิน ระงับการถมที่ดิน แต่ทางเจ้าของที่ก็นิ่งเฉย และไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขใดๆ

ทุกวันนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างต้องอาศัยอยู่กันอย่างหวาดระแวง เนื่องจากกลัวว่า ดินที่ถมจนสูงและกำแพงที่ก่อจนมิดหลังคาบ้านนี้ จะเกิดพังถล่มลงมาทับบ้านของชาวบ้านไม่วันใดก็วันหนึ่ง อีกทั้ง บ้านที่เคยซื้อในราคาหลักล้านที่เคยมีทัศนียภาพสวยงาม ปัจจุบันก็ถูกปกคลุมด้วยกำแพงปูนจนมองไม่เห็นอะไร แสงแดดส่องไม่ถึง ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนบางรายถึงกับตัดใจ ประกาศขายบ้านทิ้ง เพราะปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมานานนับปี 

ด้าน นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการดูพื้นที่พบว่ามีข้อระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายเรื่อง และชาวบ้านได้ร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมและมีการลงพื้นที่ดำเนินการสั่งการแก้ไขปัญหาในหลายเรื่อง แต่ปัญหาไม่จบสิ้น จนเกิดผลกระทบ เบื้องต้นจะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหากมีข้อบกพร่องใดๆ ก็จะแก้ไข ส่วนใครมีความบกพร่องก็ต้องถูกดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า เปิดเผยว่า ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้าพร้อมร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะเร่งดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม หากมีคำชี้แจงจากเจ้าของที่ดิน ซึ่งถมที่สูง จะรายงานให้ทราบต่อไป