ตำรวจจับแล้ว 2 แม่ค้าออนไลน์วัยรุ่น หลอกขายมือถือเด็ก 14 ทำเครียด จนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต พ่อแม่ไม่ขอเงินคืน ว่ากันไปตามกฎหมาย ดีใจลูกได้รับความยุติธรรมแล้ว

จากกรณี น้องก้อง เด็กนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถูกแม่ค้าออนไลน์ หลอกขายโทรศัพท์มือสองภายหลังโอนเงินไปให้ 5,000 บาท กลับโดนบล็อกช่องทางการติดต่อ สุดท้ายเด็กนักเรียนวัย 14 ปี รายนี้เกิดความเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งศาลได้พิจารณาออกหมาย น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 636/2564 ลงวันที่ 23 ก.ย.2564 และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 637/2564 ลงวันที่ 23 ก.ย.2564 ความผิดฐาน "ร่วมฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า สืบเนื่องจากตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์กรณีเด็กนักเรียนอายุ 14 ปี ถูกหลอกลวงจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมือสอง ยี่ห้อไอโฟน 7 ขนาด 32 กิกะไบต์ในราคา 5,000 บาท ผ่านทางอินสตาแกรม Phonebymint ที่มีผู้ติดตามมากถึง 60,000 คน เมื่อตัดสินใจซื้อจึงโอนเงินชำระให้ไป แต่ผู้ต้องหากลับไม่ส่งของให้ ทำให้น้องก้องเกิดความเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดในพื้นที่ อ.นาหวาย จ. เชียงใหม่ ซึ่งในเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่น่ารันทดหดหู่ใจและสะเทือนใจในสังคมเป็นอย่างมาก

...

หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวข้องเพราะเป็นชื่อเจ้าของบัญชีที่มีการโอนเงินจากผู้เสียหาย และขอศาล จ.เชียงใหม่ อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บคอมพิวเตอร์ นำข้อมูลบิดเบือน หรือปลอมรุ่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงสืบสวนติดตามจนไปจับผู้ต้องหาได้ที่ เคหะบางบอน กทม. และในพื้นที่ จ.ปทุมธานี

จากการสอบสวนทั้งสองให้การว่า มีหน้าที่เปิดบัญชีเท่านั้น ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า น.ส.พิยดา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เป็นตัวการสำคัญในการก่อเหตุ จึงไปตรวจค้นที่บ้านพักของแฟนหนุ่มย่านราชพฤกษ์ อ.เมืองนนทบุรี โดยขณะตรวจค้นไม่พบตัว น.ส.พิยดา จึงได้ตรวจยึดแท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, ตู้เซฟนิรภัย , กระเป๋าแบรนด์เนม, ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ BMW จำนวน 2 คัน ไว้ตรวจสอบ

โดย น.ส.พิยดา มีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนม ใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น นอกจากนี้ ยังพบว่า นางสาวพิยดา เคยต้องคดีความผิดในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.คลองหลวง มีหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่า มีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งพนักงานสอบสวนจะมีบันทึกไปยังเลขาธิการ ปปง. ให้พิจารณาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ต่อไป


ด้าน นายทุน ลุงหลู่ อายุ 55 ปี พ่อของน้องก้อง บอกกับทีมข่าวไทยรัฐทีวีผ่านทางโทรศัพท์ หลังทราบข่าวการจับกุมว่า ขอบคุณตำรวจที่ให้ความสำคัญเร่งรัดคดีจนตามจับกุมคนที่โกงลูกชายได้ในเวลารวดเร็ว ส่วนคนร้ายที่ทำกับลูกชายตนเองไม่มีอะไรถามหรือฝากถึง หลังจากนี้ก็ขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ส่วนเงินที่เสียไปก็ถือว่าเสียไปแล้วไม่ติดใจอะไรอีก

นายทุน บอกว่า ในช่วงค่ำวันนี้ครอบครัวจะนิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาทำบุญครบ 7 วันเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้กับลูกชาย

นางแฝง แสงทองคำ อายุ 38 ปี แม่ของน้องก้อง บอกว่า เสียใจที่คนร้ายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวต้องมาสูญเสีย แต่เมื่อมาถึงเวลานี้ก็ดีใจที่ลูกชายได้รับความยุติธรรม ขอให้คนร้ายได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองทำไว้ และฝากเรื่องนี้ให้เป็นบทเรียนกับพ่อแม่ผู้ปกครอง.