ไทยรัฐกรุ๊ป และพันธมิตร ส่งมอบชุดตรวจลอต 3 กระจายสู่จังหวัดสีแดงเข้ม 51,000 ชุด เงินสนับสนุนล่าสุด 31 ล้านบาท ด้านแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอทางรอดคนเมืองหลวง

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ชุดตรวจโควิด-19 เบื้องต้น (Rapid Antigen Test Kit) ลอตที่ 3 จำนวน 51,000 ชุดตรวจ ส่งมอบให้กับอีก 10 จังหวัดสีแดงเข้ม เพื่อเร่งให้การตรวจเชิงรุกในจังหวัดที่มีความวิกฤติอย่าง นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี สงขลา สมุทรสาคร และนครปฐม ได้นำไปตรวจให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน

...

ในวันนี้  ไทยรัฐกรุ๊ปได้ดำเนินการส่งมอบชุดตรวจโควิด-19 เบื้องต้น เป็นลอตที่ 3 จำนวน 50,000 ชุด รวมกับชุดตรวจโควิด-19 เบื้องต้น จากผู้สนับสนุนอีก 1,000 ชุด รวมเป็น 51,000 ชุดตรวจให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


- สสจ.นนทบุรี จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.ปทุมธานี จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.สระบุรี จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.สมุทรปราการ จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.ชลบุรี จำนวน 5,000 ชุดตรวจ
- สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 15,000 ชุดตรวจ เพื่อส่งมอบให้กับ
- สสจ.สงขลา 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.สมุทรสาคร 5,000 ชุดตรวจ
- สสจ.นครปฐม 5,000 ชุดตรวจ
- สปสช. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร B จำนวน 1,000 ชุดตรวจ


สำหรับการระดมทุนสนับสนุนเพื่อโครงการ "ปฏิบัติการ ไทยรัฐ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ตรวจหาเชื้อ" ยังไม่สิ้นสุด ภารกิจนี้ยังเดินหน้าต่อเพื่อให้สามารถส่งมอบชุดตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นให้ได้มากที่สุด เพิ่มเติมพันธมิตรภาคเอกชน และประชาชนที่แสดงความจำนงร่วมสนับสนุนโครงการ "ปฏิบัติการ ไทยรัฐ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ตรวจหาเชื้อ" ล่าสุดมีรายนามพันธมิตรองค์กรเอกชน ทำการสนับสนุนเพิ่มเติมดังนี้


- บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงิน จำนวน 3,000,000 บาท และสนับสนุนแอลกอฮอล์สำหรับใช้ในภารกิจนี้รวม 150 ลิตร
- บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงิน จำนวน 100,000 บาท
- บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด สนับสนุนเงิน จำนวน 3,000 บาท

เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนจากประชาชนที่โอนเข้ามาในบัญชี ทำให้ยอดการระดมทุนของโครงการ "ปฏิบัติการ ไทยรัฐ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ตรวจหาเชื้อ" มีจำนวนเงินสนับสนุนรวม 31,202,485 บาท



พันธมิตรภาคเอกชน และประชาชนที่มีกำลังทรัพย์ ยังสามารถร่วมสนับสนุนเงินผ่านโครงการนี้ได้ โดยเงินทั้งหมดที่ได้จะนำไปจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 (Rapid Antigen Test Kit) เพื่อแจกจ่ายผ่านสถานพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยท่านสามารถโอนเงินสนับสนุนโครงการมาได้ที่

บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนวิภาวดีรังสิต
บัญชีกระแสรายวัน
เลขที่ 196-3-06656-6
ชื่อบัญชี : ไทยรัฐร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19

ไทยรัฐกรุ๊ป ขอขอบคุณพันธมิตรภาคเอกชนทุกๆ ราย และประชาชนที่ร่วมโอนเงินสนับสนุนเข้ามาให้โครงการนี้ได้ถึงเป้าหมาย เราสัญญาว่าภารกิจการช่วยเหลือจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ และเราจะทุ่มทุกสรรพกำลังช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติครั้งไปได้โดยเร็วที่สุด


ชมรมแพทย์ชนบทหนุนการใช้ แรพิด เทสต์ ตรวจเชิงรุกกว้างขวาง


ขณะเดียวกัน ที่ลานกีฬาชุมชน หมู่บ้านรินทร์ทอง ถ.รามคำแหง 190 เขตมีนบุรี กทม. ชมรมแพทย์ชนบท โดยเจ้าหน้าที่เทคนิคการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกลุ่มโรงพยาบาลจาก จ.สุโขทัย ร่วมกับ ทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี สำนักอนามัย กทม. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานเขตมีนบุรี ลงพื้นที่ ตรวจคัดกรองเชิงรุก ด้วยชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แรพิดเทสต์ ที่ทราบผลได้เร็วภายใน 20 นาที ด้วยการสนับสนุนจาก สปสช. ไทยรัฐกรุ๊ป และภาคเอกชนต่างๆ ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใน หมู่บ้านรินทร์ทอง และชุมชนใกล้เคียง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาต่อแถวเข้ารับการตรวจหาเชื้อกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตมีนบุรี มาคอยช่วยจัดแถวเว้นระยะห่างเพื่อลดการแออัด และไม่มีความวุ่นวายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี ยังให้บริการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ รวมถึงกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่บริเวณใกล้กันอีกด้วย

ทั้งนี้ ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ข้อเสนอชมรมแพทย์ชนบท ทางรอดคนเมืองหลวง ผ่านเพจชมรมแพทย์ชนบท ระบุว่า ชมรมแพทย์ชนบท ได้ทำการตรวจสวอบคนกรุงไปในทั้ง 2 รอบกว่า 40,000 คนแล้ว ได้ฟังเสียงของคนกรุงเทพฯ มาไม่น้อย พบผลบวกเกินกว่า 10% เราพบว่าแม้เราจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ช่วยคนกรุงเทพฯ ได้ชั่วคราว หน่วยงานในกรุงเทพฯ ต้องระดมความร่วมมือช่วยกันเองให้มาก จึงจะสร้างความหวังได้

ชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเสนอว่า 1. ขอให้ ศบค.กทม. กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ในเมืองหลวง ต้องช่วยกันเพิ่มจุดตรวจโควิดให้มากขึ้นอีกหลายๆ เท่า ให้เพียงพอกับสถานการณ์การระบาดที่หนักหน่วง

2. ขอให้โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง ยอมรับผลของ Rapid Antigen Test และอย่าได้ผลักภาระการตรวจ RT-PCR ให้เป็นภาระของคนไข้ที่เขาต้องไปหาที่ตรวจเอง ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง ควรเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลที่จะต้องตรวจยืนยันให้เขา

3. ขอให้รัฐบาลส่งเสริมให้มีการตรวจโควิดด้วยตนเองโดย Antigen Test Kit ให้กว้างขวาง ทั้งด้วยการส่งให้ตรวจฟรีสำหรับคนที่ร้องขอ หรือการวางขายตามร้านขายยา โดยที่มีการควบคุมคุณภาพและควบคุมราคาให้เหมาะสม

ทั้ง 3 ข้อ จะทำให้ทั้งประชาชนคนกรุงและต่างจังหวัด เข้าถึงการตรวจโควิดได้มากขึ้นอย่างมาก เพราะต้องยอมรับว่า การรู้ตัวว่าตนเองติดโควิดคือหัวใจของการควบคุมโรค เฉกเช่นที่อารยประเทศเขาปฏิบัติกัน.