วันเสาร์วันนี้ท่ามกลางความเครียดและจิตตกของคนไทยทั้งประเทศ จากการระบาดระลอก 4 ของไวรัสโควิด–19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ผมขออนุญาตนำบทความของ คุณหมอแอมป์ นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ แห่ง BDMS เรื่อง “สมาธิ สร้างภูมิ ชะลอวัย” มาเล่าสู่กันฟังนะครับ บทความนี้คุณหมอเขียนลงในคอลัมน์ Health & Wellness ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับกรกฎาคม คอลัมน์นี้จะเน้นเรื่องการแพทย์แบบป้องกัน Preventive Medicine โดยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงผ่านกิจกรรมต่างๆ เป็นศาสตร์ใหม่และเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกด้วย

บทความของ คุณหมอแอมป์ เรื่องนี้เข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี

คุณหมอเขียนในบทความว่า ความเครียดที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดต่อ ความเครียดจากการทำงาน ความเครียด จากปัญหาเศรษฐกิจ เราเครียดแต่ละครั้งร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเครียด คือ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) และ สารก่อการอักเสบ (Inflam matory markers) ถ้าหากเรามีความเครียดเรื้อรังต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติไป และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

ผลข้างเคียงจากความเครียดเรื้อรัง เป็นเวลานานอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา (Immune System) จะลดต่ำลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายกว่าปกติ เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการลดลงของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

คุณหมอแอมป์ บอกว่า สิ่งที่ทำให้เราจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดีก็คือ การมีสติ (Mindfulness) ที่เป็นการ รู้ตัวกับภาวะปัจจุบัน รู้ทันอารมณ์ รู้ทันความคิด รู้ทันความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น การฝึกสมาธิ (Meditation and Willpower) ทางพุทธเรียกว่า การปฏิบัติกรรมฐาน เราสามารถนำการทำสมาธิมาใช้เพื่อลดความเครียด การฝึกสมาธิไม่ใช่เพียงแค่การนั่งสมาธิเท่านั้น แต่อาจเป็นการเพ่งความสนใจไปที่ความคิด ลมหายใจ หรือร่างกาย อาจเริ่มต้นง่ายๆด้วย การเดินจงกรม โยคะ หรือ ไท้เก๊ก ก็ได้

...

กลไกของการทำสมาธิ เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก คาดว่า การทำสมาธิ ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ (Awareness) พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การทำสมาธิ ทำให้เรารู้ทันความคิดของตนเอง และ มีสติอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น สร้างความรู้สึกว่า ตัวเรานั้นสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ และลดความต้องการที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำในการประเมินและรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้

การทำสมาธิ จึงช่วยให้เราสามารถ ควบคุมอารมณ์ และมีสมดุลทางอารมณ์ที่ดีขึ้น ทำให้คลื่นสมองที่เป็นเดลต้า (Delta Wave) และ คลื่นธีต้า (Theta Wave) ซึ่งเหมือนสมองในช่วงนอนหลับลึก สามารถเพิ่มการซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเหล่านี้ เป็นผลทำให้ระดับความเครียดลดลง

เมื่อ ความเครียดลดลง ระดับฮอร์โมนต่างๆก็มีความสมดุลมากขึ้น การตอบสนองต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดลดลง ชีพจรเต้นช้าลง ไม่หายใจถี่เร็วแบบแต่ก่อน เมื่อไม่มีความเครียด ระดับสารอนุมูลอิสระ (Free radicals) และฮอร์โมนเครียดคอร์ติซอลก็ลดลงด้วย ส่งผลทำให้ การสร้างสารอักเสบ (Transcription factor NF–kB CRP) ลดลง ช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว (CD4+T–cell count) และ เพิ่มการทำงานของ NK cell activity และยังเพิ่มการทำงานของ เอนไซม์เทโลเมอเรส (Telomerase activity) ซึ่งจะ ช่วยชะลอไม่ให้แก่เร็ว

เนื้อที่หมดเสียแล้ว การบรรเทาความเครียดและชะลอวัยมีอีกหลายวิธีในบทความนี้ ผมเชื่อว่าในอนาคตเราจะได้ยินชื่อของ T–cell และ NK–cell มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเซลล์สร้างภูมิคุ้มกันและเซลล์ฆ่าไวรัสแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายของเรา ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพแข็งแรงและรักษาสุขภาพในวันสุดสัปดาห์นี้ครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”