น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ฝากถึงคนที่สูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะมีการอักเสบเรื้อรังในหลอดลมและปอดอยู่แล้วจากพิษบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเอง ทำให้ความสามารถขจัดสิ่งแปลกปลอมและฆ่าเชื้อโรคที่เข้าสู่ปอดที่มากับลมหายใจลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายกว่าคนปกติ จึงขอเชิญชวนให้เลิกสูบ เพื่อสุขภาพของตนเอง และป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
ด้าน รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า มีงานวิจัยระบุว่าผู้สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนปกติ 5-14 เท่า เมื่อป่วยแล้วมักมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ที่น่าเป็นห่วงนักสูบที่สูบจนเกิดโรคเรื้อรังแล้ว เช่น โรคถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง มะเร็งปอด ระบบภูมิคุ้มกันจะลดต่ำกว่าคนปกติ ทำให้เชื้อโควิด-19 ผ่านเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายและเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณนิโคตินมากกว่าบุหรี่มวนถึง 10-100 เท่า.