วันนี้ชื่นมื่น คุณหญิงสุจิตรา มงคลกิติ, รัตนา นรพัลลภ และ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ จัดงานเลี้ยง ฉลองวันเกิดให้หลาน ลูกของ ธีระเดช–อำไพพรรณ จิราธิวัฒน์ และลูกของ ภัสสรกรณ์–ราศรี จิราธิวัฒน์ โดยมี อาภัสรา หงสกุล มาร่วมงานด้วย ที่ รร.เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ วันก่อน.
สู้ภัยไวรัสโควิดต้องป้องกันตัวเองให้ ดีที่สุด หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของ ประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564
“ธนูเทพ” ประจำ การรับใช้ท่านผู้อ่าน...ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสมรณะโควิด–19 ระลอก 3 ทวีความรุนแรงขยายวงกว้างไปเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวปราศรัยเนื่องใน ประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2564 ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยเน้นย้ำว่า เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย มีอัตลักษณ์เฉพาะที่งดงามตามแต่ละภูมิภาค และเป็นประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคีกลมเกลียวของคนในครอบครัวและชุมชน อันเป็นอุปนิสัยของคนไทยทุกคนได้อย่างชัดเจน และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนอยู่นั้น
...
ขอเชิญชวนหน่วยงาน ทั้ง ภาครัฐ และ เอกชน ชาวไทย ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานประเพณีสงกรานต์ของไทย ให้เป็น “สงกรานต์วิถีใหม่” ที่ยังคงความงดงามตามเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ โดยปฏิบัติตาม แนวทางมาตรการของรัฐในการจัดกิจกรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เทศกาลนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและปลอดภัย ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน จะทำให้เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ เป็นเทศกาลที่ทรงคุณค่า และขออวยพรให้ชาวไทยประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง มีความรักความสามัคคีกัน และเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ...คนส่วนใหญ่จะเชื่อหรือไม่ ปฏิบัติตามกันรึเปล่า ต้องรอพิสูจน์ผลลัพธ์หลังช่วง หยุดยาว
แต่ที่แน่ๆเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) หรือ ศบค. เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พบมีผู้ป่วยรายใหม่ 1,335 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,326 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ 9 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 35,910 ราย รักษาหายป่วยสะสม 28,322 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 7,491 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 97 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อ 138,013,074 ราย เสียชีวิตรวม 2,971,864 ราย...
สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสมรณะทั่วโลกยังอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะ ประเทศไทย ที่อยู่ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และ เดินทางท่องเที่ยว กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การแพร่เชื้อระบาดขยายวงกว้าง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อ 14 เม.ย. ทะลุหลักพันคน จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคระบาด อาทิ การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่มีคนแออัด โอกาสที่จะเห็นยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดทะลุเพดานถึงวันละ 10,000 ราย อย่างที่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคน ออกมาส่งสัญญาณเตือนไว้ล่วงหน้าก็มีความเป็นไปได้สูง...ในสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิดลาม ระบาดหนัก การป้องกันตัวเอง ด้วยการรักษา มาตรการป้องกัน ตามกฎ สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ถือเป็นอีกหนึ่งทางรอดระหว่างรอวัคซีนจาก รัฐบาลต้องตั้งการ์ดให้สูงไว้ถ้าไม่อยากเป็นเหยื่อโควิด
อืม...นี่ก็สะท้อนถึงสถานการณ์โควิดที่กำลังวิกฤติหนัก เมื่อ เพจศูนย์ข้อมูลโควิด–19 เผยแพร่ข้อมูลว่า นายกฯประยุทธ์ ขอความร่วมมือ ภาครัฐ Work from Home เต็มขีดความสามารถ เรียน-ประชุม Online ถึง 30 เม.ย. นี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด–19 มีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องกระจายเกือบทุกจังหวัด และพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในหลายจังหวัด
รวมถึงมี ข้าราชการระดับผู้บริหาร และ ระดับเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง ครอบครัว ติดเชื้อโควิด-19 หลายราย จึงขอเน้นย้ำ ข้าราชการทุกส่วนราชการ ปฏิบัติตามมาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ อย่างเคร่งครัดทุกกิจกรรม บุคคลที่เคยไปพื้นที่เสี่ยงให้กักกันตนเองอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่สาธารณะ 2.มาตรการในสถานที่ทำงาน สถานศึกษาอบรม Work from Home เต็มขีดความสามารถ ถึง 30 เม.ย. โดยให้จัดประชุม การเรียน การอบรม แบบ Online
ขณะที่ นัทรียา ทวีวงศ์ ผอ.สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ แจ้งในไลน์กลุ่มสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ว่า ตามที่ ศบค. ได้มีประกาศแนวปฏิบัติของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นี้ สำนักโฆษกฯ จึงต้องขอความร่วมมือจาก สื่อมวลชน ที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล โดยนำแนวทางของ ศบค. เป็นหลัก ดังนี้ 1.มาตรการ Work from Home อย่างเข้มข้น จนถึงวันที่ 30 เม.ย. เพื่อลดการใกล้ชิดสัมผัส จึงขอให้สื่อจำกัดการเข้ามาปฏิบัติงาน ดังนี้
สื่อทีวี อนุญาต 1 ทีม ส่วน สื่ออื่นๆ สังกัดละ 1 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.นี้ 2. เคร่งครัดการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตรวจอุณหภูมิ และรับสติกเกอร์รายวันจาก สำนักโฆษก เว้นระยะห่างทุกกรณี และหมั่นล้างมือ ทำความสะอาด 3.งดรุมสัมภาษณ์ทุกกรณี ให้สื่ออยู่ในที่ตั้งจุดที่พักของตนเอง หากมีการสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่จะแจ้งและอำนวยความสะดวกให้ 4.ในกรณีสั่งของ หรืออาหารมาจากภายนอก ไม่ให้เข้ามาส่งภายในตึกหรือพื้นที่ด้านในของทำเนียบรัฐบาล และ 5.ผู้ที่เคยเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ขอให้แจ้งต้นสังกัด และงดเข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบฯอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ...
ทำเนียบรัฐบาล จุดศูนย์กลางอำนาจ ประเทศไทย ยังต้องออกมาตรการเข้มป้องกันเชื้อไวรัสโควิด ฉะนั้นชาวบ้านทั่วไปต้องตื่นตัวเตรียมรับมือมหันตภัยไวรัสมรณะกันให้ดี
ผ่างๆ...พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค.) ส่งสัญญาณเข้มเรื่องการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ลามระบาดหนักว่า จากการประชุมร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น การควบคุมสถานการณ์ที่อาจต้องใช้ มาตรการล็อกดาวน์ ในบางพื้นที่ เช่น กทม. และ ปริมณฑล เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และ ภาคตะวันออกบางจังหวัด แต่การประกาศมาตรการใดๆ
ทาง ศบค. จะต้องฟังข้อมูลจากทีมงานของ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหลัก นอกจากนี้ นายกฯประยุทธ์ สั่งการเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ให้เตรียมยกระดับ โดยขณะนี้ทีมงานได้เตรียมการไว้แล้ว เช่น การยกระดับพื้นที่ที่ผ่อนคลาย ให้เป็น พื้นที่สีแดง แต่ ศบค. ระวังไม่ให้กระทบกับประชาชนโดยรวม ทั้งนี้นโยบายรายพื้นที่จะไม่ทำเหมือนกันทั้งประเทศ เพราะจะกระทบประชาชน
โดย มาตรการล็อกดาวน์ คือ การห้ามเข้า–ออก ในพื้นที่จังหวัดควบคุม หรือหมายถึง พื้นที่ควบคุมสีแดงเข้ม แต่จากการประเมินขณะนี้ ยืนยันว่าสถานการณ์ระบาดสามารถควบคุมได้ ยังใช้การมองเป็น 3 มิติ คือ มิติพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อสูง มิติกิจการใดที่เสี่ยง และ กิจกรรมใดที่เสี่ยง โดย กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอการยกระดับพื้นที่ให้ทาง ศบค.ชุดเล็ก พิจารณาอีกครั้ง...โยนหินนำร่องแบบนี้ คงหนีไม่พ้นต้องมี มาตรการล็อกดาวน์ ตามมาแน่นอน จบข่าว
เฮ้อ...ความสูญเสียจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการรณรงค์ให้รักษากฎจราจรกันอย่างเข้มแข็ง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2564 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย. เป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 376 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 29 ราย ผู้บาดเจ็บ 392 คน
สาเหตุที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 36.44 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.86...ส่วนอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วัน ของการรณรงค์ 10–13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 1,465 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 152 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,494 คน...ขอย้ำเตือนผู้ขับขี่ขอให้รักษากฎจราจร อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะความประมาทคือหนทางสู่ความตาย
สังคมทั่วไป...
ศพ ประดิษฐ์ ศรีวรมาศ บิดา ผศ.ดร.กฤษณ์ ศรีวรมาศ ตั้งสวดวัดสุปัฏนาราม ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี 18.30 น. 16 เม.ย. คืนสุดท้าย พระราชทานเพลิง 17 เม.ย. 14.00 น.
ศพ พ.อ.หญิง ศรีพธู วิทยาสารรณยุต มารดา วิทย์วรรณ วิทยาสารรณยุต ตั้งสวดศาลา 8 วัดโสมนัสราชวรวิหาร 18.00 น. ถึง 20 เม.ย. ฌาปนกิจ 21 เม.ย. 15.30 น.
ศพ วิวัฒน์ นาคปนันท์ ตั้งสวด ศาลา 26 วัดธาตุทอง 18.30 น. ถึง 20 เม.ย. และ 21 เม.ย. พิธีกงเต๊ก ฌาปนกิจ 22 เม.ย.17.00 น.
"ธนูเทพ"