กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าแนวคิดเรือนจำเอกชน โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เผยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาจริงจัง หวังลดความแออัด แยกประเภทผู้ต้องขัง ได้มาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อศึกษาและกำหนดแนวทางการจัดตั้งเรือนจำเอกชนที่กระทรวงยุติธรรม โดยมี นายพงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายโฆษิต สุวินิจจิต ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ ผู้ตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นการตั้งเรือนจำเอกชน และผู้แทนจากหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วม อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายจะจัดตั้งองค์การเอกชนลดความแออัดในเรือนจำ และแก้ไขฟื้นฟูพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 60/2564 ลงวันที่ 19 ก.พ.2564 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อศึกษาและกำหนดแนวทางการจัดตั้งเรือนจำเอกชน ทำหน้าที่ ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลเอกสารทางวิชาการ รวมถึงบทบัญญัติของกฎหมายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งผลกระทบต่างๆ พิจารณากำหนดแนวทางและข้อเสนอแนะ โดยมีตนเป็นที่ปรึกษาและโฆษก ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นที่ปรึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรมเป็นเลขานุการ คณะกรรมการฯ

...

นายสามารถ กล่าวต่อว่า การจัดตั้งเรือนจำเอกชนจะต้องศึกษาข้อมูลรอบด้านอย่างรอบคอบ รัฐบาลไม่ควรแบกรับต้นทุนการดูแลผู้ต้องขังทุกประเภท โดยเฉพาะโทษจำคุกสถานเบา ไม่ควรอยู่ปะปนกับโทษสถานหนัก เพราะอาจทำให้เกิดการเรียนรู้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ ปัจจุบัน ประเทศไทย ประสบปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ขาดแคลนอัตรากำลังผู้คุม ขาดรูปแบบวิธีปฏิบัติต่อผู้ต้องขังชัดเจน ส่งผลกระทบต่อการแก้ไขฟื้นฟูพฤตินิสัยผู้ต้องขัง โดยเรือนจำเอกชนจะเป็นทางเลือกหนึ่งลดความแออัดในเรือนจำ ซึ่งการแข่งขันของภาคเอกชนจะช่วยยกระดับการดูแลผู้ต้องขังให้มีมาตรฐานสากล ภายใต้การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัยสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน โดยต้องมีผลการศึกษาให้ชัดเจน เทียบเคียงกับต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ และแอฟริกาใต้ เป็นต้น.