วานนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม กบท. นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีท้องถิ่นจังหวัด บุคลากรของสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด/ อำเภอ จำนวน 1,106 คน เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบเว็บคอนเฟอเรนซ์
โอกาสนี้ อธิบดี สถ. ได้มอบนโยบายการบริหารจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเน้นย้ำว่างานด้านการศึกษาเป็นงานที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่สามารถหยุด หรือเลื่อนออกไปก่อน ในช่วงนี้สถานศึกษา (โรงเรียน, วิทยาลัย, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) ส่วนใหญ่ก็เปิดเรียนตามปกติแล้ว ขอให้กำชับสถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ในการป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง
สำหรับสถานศึกษาที่ยังไม่สามารถเปิดเรียน Onsite ได้ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีด้านการศึกษาทางไกลมากมายให้เลือกใช้ หรือสลับวันเรียนเพื่อเว้นระยะห่าง สถานศึกษาก็สามารถออกแบบได้ตามความเหมาะสม ขอให้พวกเราได้คอยช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุน เป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการศึกษา ผมเชื่อว่าเรามีศักยภาพ ในการช่วยเหลือสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
“ด้านงบประมาณทางการศึกษาในช่วงปิดภาคเรียนด้วยเหตุพิเศษ และเรียนออนไลน์ หรือสลับวันเรียน ช่วยแนะนำสถานศึกษาของเราด้วยว่า เด็กจะต้องได้รับนมและอาหารกลางวันครบถ้วนตามนโยบายของรัฐบาล นมก็อาจซื้อเป็นนมยูเอชทีให้เด็กนำไปดื่มที่บ้าน ค่าอาหารกลางวันก็ให้เป็นเงินกับผู้ปกครองเด็ก อาจจ่ายเป็นสัปดาห์ หรือรายเดือน ตามความเหมาะสม ซึ่งมีหนังสือแจ้งไปแล้ว เพื่อให้เด็กของเราได้เติบโตสมวัย สำหรับค่าอาหารกลางวัน คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวัน เป็น 21 บาท แล้วโดยจะเริ่มในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ขอให้แนะนำติดตามให้จัดอาหารเป็นตามหลักโภชนาการ”
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จัดทำโครงการการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (นักเรียนทุนเสมอภาค) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการคัดกรองเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ยากจนและด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง แต่ยังมีปัญหาโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบันทึกข้อมูลในระบบคัดกรองเด็กของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาน้อย ทำให้เด็กของเราได้รับเงินสนับสนุนน้อยลงไปด้วย ขอให้ประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ กระตุ้นเตือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการบันทึกข้อมูลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน
“งานเหล่านี้เป็นงานสำคัญด้านการศึกษา ที่ต้องช่วยกันขับเคลื่อน หรือถ้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด มีโครงการ/งานที่จะส่งผลต่อการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชน ให้ช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย” อธิบดี สถ. กล่าว