เมื่อเดือนเมษายนปีกลาย ผมและคุณระวิ โหลทอง เจ้าพ่อสยามสปอร์ต มีโอกาสเข้าพบและไปสัมภาษณ์พูดคุยกับคุณบัณฑูร ล่ำซำ ซึ่งเพิ่งอำลาจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของธนาคารกสิกรไทยหมาดๆ พร้อมกับได้นำคำตอบจากคุณบัณฑูรมาเขียนในคอลัมน์นี้ถึง 3 วันต็มๆ

สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า คุณบัณฑูรเห็นว่าธนาคารกสิกรไทยมีความพร้อมทุกประการแล้วที่จะเดินหน้าต่อไป โดยมีผู้บริหารชุดใหม่ ซึ่งมีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ด้านการเงินอย่างดียิ่ง

ทำให้เขาตัดสินใจลงจากตำแหน่งประธานกรรมการได้อย่างเต็มตัว และมีเวลาว่างพอที่จะไปลุยงานที่ จังหวัดน่าน กับโครงการ “น่านแซนด์บ็อกซ์” ได้อย่างเต็มที่

สืบเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงริเริ่ม โครงการรักษ์ป่าน่าน ขึ้น ทำให้ทราบว่าป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ของจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำน่าน 1 ในแม่น้ำ 4 สาย ที่ไหลมารวมกัน เป็นแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ถูกทำลายไปถึง 28 เปอร์เซ็นต์

ส่งผลกระทบอย่างแรงไปถึงความสมบูรณ์ของลำน้ำน่านอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงและจำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไข

เป็นที่มาของโครงการ “น่าน แซนด์บ็อกซ์” หรือโครงการ ทดลอง หารูปแบบว่าคนน่านกับป่าน่านจะอยู่ด้วยกันอย่างไร? จะหยุดการทำลายป่าได้อย่างไร? และจะฟื้นฟูป่าให้กลับคืนมาได้อย่างไร?

หากการทดลองเป็นผลสำเร็จก็สามารถจะนำรูปแบบไปปรับใช้กับจังหวัดอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาการทำลายป่าได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

คุณบัณฑูรยํ้าว่า นับจากวันที่คุยกับผมและคุณระวิ เขาจะมีเวลาให้กับ โครงการมากขึ้น และจะรีบเดินทางไปจังหวัดน่านโดยเร็วที่สุด

...

ปรากฏว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง ผมเปิดดูรายการ “สุทธิชัยไลฟ์” ของคุณ สุทธิชัย หยุ่น ในยูทูบ พบว่าคุณสุทธิชัยกำลังสัมภาษณ์คุณบัณฑูรอยู่พอดี

ทำให้ทราบว่า ตลอดช่วง 8-9 เดือนที่ผ่านมา คุณบัณฑูรขึ้นๆลงๆ ระหว่างกรุงเทพฯ-น่าน อยู่ตลอด ดังที่เขาให้คำมั่นสัญญาไว้

รวมทั้งวันที่ให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ให้สัมภาษณ์ทางไกลมาจากบ้านพักของคุณบัณฑูรที่จังหวัดน่านเช่นกัน

คุณบัณฑูรเล่าว่า จากป่าไม้ที่สูญเสียไป 28 เปอร์เซ็นต์นั้น โครงการน่าน แซนด์บ็อกซ์ ตั้งเป้าว่าจะเอาคืนมาเป็นป่าที่สมบูรณ์ 18 เปอร์เซ็นต์ และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ยอมให้เป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของประชาชนต่อไป โดยมีข้อแม้ว่าจะไม่ทำลายป่าอีก

แต่ในขณะนี้แม้คุณบัณฑูรจะขึ้นไปคุยกับชาวบ้านหลายรอบ รวมทั้งประชุมกับคณะกรรมการน่าน แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีตัวแทนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนอีกหลายครั้ง

แต่ก็ยังหาบทสรุปไม่ได้ว่า จะให้ประชาชนที่เข้าไปบุกรุกและทำลายป่า รวมทั้งอาศัยและทำกินอยู่ในพื้นที่ป่าทุกวันนี้ทำอาชีพหรือปลูกพืชอะไรดีที่จะมีรายได้อย่างถาวรและมั่นคง

แทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันซึ่งมีรายได้ค่อนข้างต่ำ และไม่คุ้มกับการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้แม้แต่น้อย

ยังติดอยู่ตรงเรื่องพืชใหม่หรืออาชีพใหม่นั่นแหละครับ...ซึ่งทุกฝ่าย ก็กำลังระดมความคิดกันอยู่ และคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายที่จะนำพื้นที่ป่ากลับคืนมา 18 เปอร์เซ็นต์ จึงยังไม่คืบหน้ามากนักในขณะนี้

แต่คุณบัณฑูรก็ยังจะเดินหน้าปรึกษาหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกต่อไปโดยไม่ย่อท้อ และก็บอกข่าวดีไว้ข่าวหนึ่งว่า

“แม้เรายังจะเอาป่าคืนมาไม่ได้...แต่ 5-6 ปี ที่เราตื่นตัวในโครงการนี้ ทำให้การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่ายุติลงแทบจะโดยสิ้นเชิง และเมื่อดูแผนที่ดาวเทียมก็พบว่า ตัวเลขพื้นที่ที่ถูกทำลายยังคงอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเดิมเป๊ะมาหลายปีแล้ว”

ผมฟังอย่างนี้แล้วก็สบายใจขึ้นเยอะ เพราะแม้โครงการที่จะเดิน ไปข้างหน้ายังต้องหาบทสรุปกันอยู่ แต่อย่างน้อยการที่พื้นที่ป่าไม่ถูกทำลายลงอีกก็ถือว่าเป็นความสำเร็จเบื้องต้นละครับ

วันนี้ก็เลยมาหยิบมาเขียนให้กำลังใจ ขอให้คุณบัณฑูรเดินหน้าต่อไป และขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ...ไม่ว่าจะยากเพียงใดก็ตาม.

“ซูม”