ขนส่งทางบก แนะยังชำระภาษีรถได้ทางออนไลน์ไม่มีปัญหาแถมสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยจากโควิด-19

วันที่ 16 มกราคม 2564 นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 กรมการขนส่งทางบกได้งดการให้บริการบางกิจกรรมที่มีลักษณะการรวมกลุ่มคนจำนวนมากในบริเวณเดียวกัน และใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนาน ตั้งวันที่ 4 มกราคม 64 เป็นต้นมา เช่น งดใช้ห้องอบรมในการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง แนะนำให้อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถผ่านระบบ e-Learning เพื่อลดความเสี่ยงการติดต่อแพร่เชื้อ

ขณะที่การให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ได้งดการให้บริการที่ห้างสรรพสินค้า Shop Thru for Tax และการให้บริการที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

โดยกรมการขนส่งทางบก ได้เตรียมความพร้อมการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางอื่นๆ ไว้รองรับ โดยเฉพาะการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในรูปแบบออนไลน์ ไม่ต้องเดินทาง รอรับเครื่องหมายการเสียภาษี และใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน เช่น เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th, แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, โมบายล์แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet

ในขณะที่การให้บริการที่สำนักงานได้เปิดให้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru for Tax ทุกช่องบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระภาษีรถประจำปีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ กรณีบางท่านที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีที่เคาน์เตอร์สำนักงาน จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารทุกทางเข้า-ออก และมีเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือให้บริการทุกจุดให้บริการ

...

อย่างไรก็ตาม การให้บริการขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่อมาติดต่อขอรับบริการที่กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า จากสถิติการชำระภาษีรถประจำปีของกรมการขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนธันวาคม 2563 มีการชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จำนวน 452,682 คัน แบ่งเป็นการใช้บริการ ดังนี้

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 สูงสุด จำนวน 323,145 คัน 
  • ใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru for Tax จำนวน 64,806 คัน
  • ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 28,700 คัน
  • ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 20,614 คัน
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 8,027 คัน
  • ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน จำนวน 5,278 คัน
  • ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 803 คัน
  • ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 562 คัน
  • ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 430 คัน
  • ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax จำนวน 307 คัน
  • ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ จำนวน 10 คัน

โดยพบว่า เจ้าของรถให้ความสนใจ และหันมาใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์รวมทุกช่องทางแล้วมีสถิติสูงขึ้นต่อเนื่อง.