ก้าวเข้ามาช่วยงานธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ธนัชพร สวนศิลป์พงศ์ ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ที่มองเห็นความสำคัญของการทำงานทีมเวิร์ก พลังของคนรุ่นใหม่ และความเชี่ยวชาญของคนรุ่นเก่า ซึ่งนำมารวมกันเพื่อสร้างองค์กรเติบโตยั่งยืน
เฟิร์น ธนัชพร ผู้บริหารสาววัย 30 ปีต้นๆ แต่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ปัจจุบันนั่งเก้าอี้บริหารในตำแหน่งผู้ช่วย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เพ็น เค อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ผู้จัด จำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องกรองน้ำ กว่าที่จะมาสืบสานกิจการของครอบครัว เฟิร์น ได้สั่งสมประสบการณ์ทำงานองค์กรใหญ่มาถึง 2 แห่ง โดยเล่าว่า เฟิร์น จบเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ปริญญาโทนักบริหารระดับต้น Young Executive MBA จุฬาฯ และไปเรียนการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศจาก College of Business & Communication ประเทศญี่ปุ่น ทำให้รู้ภาษาญี่ปุ่น จึงได้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยประสานงานการจัดกิจกรรม Japanese speaking event coordinator บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแเฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) ทำอยู่ 3 ปี ก็ได้มาเป็นผู้ดูแลและวางแผนการตลาด Strategy Manager บริษัท เซ็นทรัล และมัทสึโมโตะ คิโยชิ จำกัด อีก 2 ปี จากนั้นรู้สึกว่าอยากกลับมาช่วยคุณพ่อ ซึ่ง เฟิร์น ได้เข้ามาทำเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยมาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัท เพ็น เค อินเตอร์เทรดดิ้ง ดูแลในส่วนของการตลาด และสื่อต่างๆของสเมกเป็นหลัก รวมถึงภาพลักษณ์ ของแบรนด์ทั้งหมด ทางด้านสินค้า ดูในส่วนของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่ม Small Appliances ของแบรนด์สเมก (smeg) จากประเทศอิตาลี เป็นหลัก
“เรียกว่าดูแล smeg ตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน ซึ่งแบรนด์นี้ บริษัทเรานำเข้ามา สักพักแล้ว ตอนนี้ สเมก เป็นที่รู้จักและแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งต่อไปเราจะโกอินเตอร์ ไม่ขายแค่ในประเทศไทย การเข้ามา ทำงานกับที่บ้านถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งว่า เรามีไกด์คอยช่วย มีความคิดอีกมิติหนึ่งมาช่วยให้เราได้คิด ในตอนแรกอาจจะอึดอัดบ้าง ซึ่งบางครั้งเราอาจจะพลาด ความพลาดของเราก็ทำให้เราได้ระมัดระวังมากขึ้น ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เราพลาด”
...
ในการทำงานของผู้บริหารรุ่นใหม่คนนี้ เธอบอกว่า เฟิร์น ไม่ต้องการทำงานแบบวันแมนโชว์ มีความเป็นผู้นำสูง แต่อยากเป็นผู้นำที่มีทีมที่ให้การสนับสนุน ในองค์กรเรามีทั้งเด็กที่มีประสบการณ์น้อยแต่มีความพลัง มีผู้ใหญ่ที่ทำมานานมีความเชี่ยวชาญ แต่อาจทำงานจนเป็นความเคยชิน เราต้องรวมทุกคนให้อยู่ในทีมเดียวกัน อยู่ในภาพเดียวกัน
“เราอยากสร้างบริษัทของเราให้โตอย่างยั่งยืน โตด้วยตัวเอง มีรากฐานและระบบแข็งแรง สดใสจากภายในออกมาภายนอก และทุก นอต ทุกฟันเฟือง ทุกคนที่ทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข เวลาทำงาน คุณพ่อจะสอนเลยว่า ทำแบบนี้ไม่ได้เพราะอะไร เมื่อก่อนเคยคิดว่า เราทำไปทำไม ไม่เห็นอะไร แต่ตอนนี้ได้คิดแล้วว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา ซึ่งตอนนี้เราได้เห็นระบบต่างๆพัฒนา ทางเดินของเราเริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วค่ะ”...ผู้บริหารคนเก่ง ฉายภาพความสดใสของการทำงาน.