เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ ประชุม มส.ได้พิจารณาเรื่องที่กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เสนอเรื่องการบิณฑบาตที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย โดยระบุว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนผ่านระบบการจัดการเรื่องราวร้อง ทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงนำหลักเสขิยวัตร 75 มาพิจารณา และเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอ มส. เพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้ 1.การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณรจะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น. 2.การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ ตามร้านขายอาหาร หรือบิณฑบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณฑบาตแห่งวัดตน ไม่สมควรกระทำ 3.การบิณฑบาตด้วยการนั่งรับบาตร หรือนั่งใน รถรับบาตรไม่สมควรกระทำ 4.สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร พระภิกษุไม่ควรเข้าไปบิณฑบาต 5.การบิณฑบาตไม่ควรสูบบุหรี่ สวมรองเท้า พูดคุยกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น ถ่ายเทอาหาร หรือทิ้งดอกไม้ให้กับเจ้าของร้านอาหาร หรือแย่งกันรับซองปัจจัย 6.เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้ว ไม่ควร ยถา...สัพพี ทั้งนี้ ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ในทุกระดับ ตลอดนพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) คอยตรวจตราดูแลให้เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย โดยยึดหลักเสขิยวัตรเป็นเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม มส.มีมติรับทราบเรื่องนี้ ทั้งมีมติให้กรรมการ มส. 3 รูป ไปหารือร่วมกัน จากนั้นให้นำเสนอ มส.ในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อออกเป็นแนวปฏิบัติต่อไป.
...