...สิ้นศตวรรษ 21 หรือราว พ.ศ.2643 อีก 80 ปีข้างหน้า ถ้าสถานการณ์โลกยังเดินลักษณะนี้ต่อไป รูปแบบประชากรโลกจะเพิ่มจากปัจจุบัน 7,800 ล้านคน เป็นราว 8,800 ล้านคน...
ลงลึกข้อมูลประชากรแต่ละประเทศที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากไล่ตั้งแต่ “ญี่ปุ่น” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 11 ของโลกอยู่ที่ราว 126 ล้านคน จะลดเหลือราว 53 ล้านคน ขณะที่ญี่ปุ่นมีประชากรอายุเฉลี่ยเกิน 100 ปีมากที่สุด แต่กลับมีอัตราเกิดต่ำมากเฉลี่ยสตรีญี่ปุ่นแต่ละคนมีบุตรแค่ 1.4 คน สังคมจะขาดแคลนแรงงานอย่างมากในอนาคตอันใกล้
“อิตาลี” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 23 อยู่ที่ราว 60 ล้านคน จะลดเหลือ 28 ล้านคน เพราะประชากรเกิดใหม่เฉลี่ยต่ำลง แต่กลุ่มคนสูงวัยเพิ่มมากเหมือนญี่ปุ่น อีกทั้งอิตาลีมีปัญหาคนอพยพไปอยู่ต่างประเทศมากเช่นเดียวกับชาวสเปน
“จีน” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 1 ของโลก อยู่ที่กว่า 1,400 ล้านคน อีก 80 ปี ประชากรจีนจะลดลงเหลือราว 732 ล้านคน เพราะอัตราเกิดเฉลี่ยต่ำลงเรื่อยๆ แม้รัฐบาลยกเลิก “นโยบายลูกคนเดียว” แล้วตั้งแต่ปี 2558 แต่อัตราการเกิดยังเฉลี่ยลดลง สัดส่วนประชากรชายมากกว่าหญิงถึงกว่า 30 ล้านคน
“อิหร่าน” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 18 อยู่ที่ราว 84 ล้านคน แต่อัตราการเกิดเฉลี่ยต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนติดอันดับชาติประชากรสูงอายุเฉลี่ยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“บราซิล” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 6 อยู่ที่กว่า 212 ล้านคน จะลดเหลือราว 164 ล้านคน เพราะอัตราการเกิดของประชากรลดมากที่สุดในรอบ 40 ปี จากเฉลี่ยสตรีแต่ละคนมีบุตร 6.3 คน เมื่อช่วงทศวรรษ 1960 เหลือเฉลี่ยปัจจุบันแค่ 1.7 คน แม้ว่าบราซิลมีปัญหามากเรื่องเด็กสาววัยรุ่นตั้งท้องก่อนวัยอันควร
...
“อินเดีย” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 2 อยู่ที่ราว 1,380 ล้านคน สิ้นศตวรรษนี้จะลดเหลือราว 1,100 ล้านคน ประชากรอินเดียจะมากแซงหน้าจีนขึ้นอันดับ 1 แต่อัตราเฉลี่ยสตรีคลอดบุตรลดลงมากจาก 5.91 คน เมื่อช่วงทศวรรษ 1960 เหลือเฉลี่ย 2.24 คน
“ไนจีเรีย” ปัจจุบันประชากรมากอันดับ 7 อยู่ที่ราว 206 ล้านคน สิ้นศตวรรษนี้ประชากรจะ “เพิ่มขึ้น 3 เท่า” อยู่ที่กว่า 791 ล้านคน ก้าวขึ้นเป็นชาติประชากรมากอันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย ไนจีเรียจะมีประชากร “วัยทำงาน” มากที่สุดของโลก แต่ด้วยสภาพสาธารณูปโภคพื้นฐาน การศึกษาและสาธารณสุขไม่พร้อม จะก่อเกิดการไหลบ่าของแรงงานข้ามชาติจากไนจีเรียมากขึ้น...
อานุภาพ เงินกระแชง