ผมจำชื่อคณะละครลิงที่เล่นอยู่ในสวนสัตว์พาต้า ศูนย์การค้าพาต้า เมื่อราวสามสิบปีที่แล้วไม่ได้ จำแต่ชื่อตัวพระเอกชื่อประกิต นางเอกชื่อกรรณณิการ์ เหตุเพราะเป็นชื่อนักข่าวที่ทำงานด้วยกัน

ความสนุกน่าจะอยู่ที่ความขบขัน ที่เห็นลิงพยายามรำพยายามเล่นให้เหมือนคน แต่ทำยังไงก็ไม่เหมือนคน

ละครเป็นศิลปะที่งดงามอ่อนช้อย ยากยิ่งลิงที่ปกติแสนซน จะเลียนแบบได้

ผมไม่แปลกใจที่ละครลิงไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ คณะเดิมที่ผมเคยพาลูกไปดูจะยังอยู่หรือเลิกราไปแล้วก็ไม่แน่ใจ แต่การฝึกลิง เก็บลูกมะพร้าว ชัดเจนนิยมทำกันในภาคใต้...

ผมเพิ่งดูทีวีช่องไทยพีบีเอส มีงานแข่งขันชิงแชมป์ลิงเก็บมะพร้าว เดิมพันรางวัลหลักหมื่น แต่ความภูมิใจที่เจ้าของลิง รวมทั้งตัวลิงผู้ชนะ ดูจะมีค่ามากกว่าหลายเท่า

การแข่งชิงแชมป์ลิงเก็บมะพร้าว แสดงว่า การใช้ลิงเก็บมะพร้าว ทำกันขึ้นหน้าขึ้นตาเป็นเรื่องธรรมดาของอาชีพหนึ่ง ที่ดูแล้วมีเสน่ห์น่าสนใจมากกว่าอาชีพอื่น

ลิงเก็บมะพร้าวเป็นลิงกัง มีโรงเรียนสอนวิชา...สอนกันถึงเจ็ดเดือน ขายตัวละสองหมื่น ต้องดูแลอย่างดี อาหารดี ป่วยต้องรักษา บางตัวค่ารักษาค่อนแสน เจ้าของก็ยอมจ่าย

ด้วยความรัก ความผูกพัน หรือด้วยความต้องการที่ใช้งานต่อ ก็ตามที

ทั้งคนฝึกลิง หรือเจ้าของต้องเลี้ยงด้วยหัวใจ การเฆี่ยนตีที่ฝรั่งโจมตีว่าทรมาน หรือทารุณนั้นแทบจะไม่มี

หากจะมีก็แต่ลิงที่เกเรดุร้าย ถึงขั้นต้องกำราบด้วยไม้เรียว ทำนองเดียวกับการเลี้ยงลูกของคนสมัยโบราณ

คนไทยคุ้นเคยกับลิงมาก มีโคลงสี่สุภาพของโบราณจงใจย้ำคำลิงไว้ทุกบาท ผมจำได้ตกๆหล่นๆ

บาทแรก...แลลิงหลุดลอดเลี้ยว ลางลิง บาทสอง ผมจำได้แค่ สองสามคำท้าย ลิง...หลอกขู้...ขู้ ภาษาโคลงเรียกโทโทษ คำตั้งใจใช้ ก็คือ คู่ แต่เมื่อมาใช้ในตำแหน่งเสียงโท คู่ จึงต้องเขียนเป็น ขู้

...

บาทสาม ผมจำได้สองคำท้าย ลิงห่ม สื่อความหมายว่าขย่ม มาถึง บาทสี่ จำได้แน่ใจว่าครบ

ลิงโลดฉวยชมผู้ (โทโทษ) ฉีกคว้าประสาลิง

ภาพจำจากโคลงบทนี้ จึงมีลิงหลอกคู่ คู่คือเมียของมันยังยักคิ้วหลิ่วตาหลอก และลิงโลด ฉวยชมพู่ ฉีกคว้าประสาลิง ที่จำได้ เพราะคำลิงโลด เรานำมาใช้เป็นสำนวน ดีใจแบบกระโดดโลดเต้น

สำนวนไทยอีกคำ ลิงหลอกเจ้า...ความหมายแรก ลิงตัวที่หลอกเจ้า ก็คือหนุมาน ตอนไปหลอกทศกัณฐ์ จนเชื่อใจตั้งเป็นลูกบุญธรรม หนุมานหลอกเอากล่องดวงใจที่ทศกัณฐ์ถอดไปฝากฤาษีมาได้

ฉากสุดท้ายของสงครามรามเกียรติ์จบลงตรงทศกัณฐ์ล้ม เพราะศรพระราม ก็ด้วยฝีมือลิงหลอกเจ้านี่แหละ

โดยความจริง ลิงไม่มีโอกาสเข้าใกล้เจ้า สำนวนลิงหลอกเจ้า จึงใช้กันกับเด็กที่ทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าผู้ใหญ่ พอลับหลังก็ยักคิ้วหลิ่วตา

ผมเขียนเรื่องลิงเท่าที่พอรู้ เพราะอยากจะบอกว่า งานปลิดลูกมะพร้าวเป็นงานที่ถูกกับนิสัยลิง เดิมทีลิงเจอผลส้ม หรือลูกมะพร้าวก็ใช้ปากฉีกกัด...คนเอามาฝึกเสียหน่อยก็ปลิดลูกพร้าวได้เร็วยังกะจักรผัน

ผมดูแข่งชิงแชมป์ลิงเก็บมะพร้าว ตัวชนะมันปล่อยตัวลงมา ในท่าโชว์ เหมือนนักกีฬาชูกำปั้น

ไม่มีอะไรส่อวี่แววฝืนธรรมชาติ ทารุณ ทรมาน งานปีนขึ้นไปเก็บมะพร้าว “เป็นงานสนุกของกู” ถ้าลิงพูดได้มันคงพูดเต็มปากอย่างนี้

ผมว่านะ...เอาลิงมาฝึกรำละคร ยังเข้าเค้าฝืนนิสัยลิง ทรมานลิงมากกว่า...

เหล่านี้คือความจริงที่นักการเมืองไทยควรพูดให้เสียงดังๆ ลิงเก็บมะพร้าวก็เหมือนเอาควายไถนา ถ้าฝรั่งไม่โง่ ก็น่าจะเข้าใจ เลิกหาเรื่องปิดกั้นตลาดกะทิไทยเสียที.

กิเลน ประลองเชิง