เมียร้องทนายรณณรงค์ช่วย หลังถูกหวย 12 ล้าน ดีใจได้ไม่นาน ถูกสามีที่อยู่กินกัน 2 ปี หอบเงินหนีหาย ติดต่อไม่ได้
วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวณัฐนันท์ สิริสุขธนานนท์ อายุ 45 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยอ้างว่า ตนเองประกอบอาชีพขายเครื่องไฟฟ้า ส่วนสามีประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ได้ตกลงอยู่กันฉันสามีภรรยาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตนกับสามีได้ไปทำบุญที่วัดพระศรีอารย์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และได้ซื้อลอตเตอรี่มา 5 ใบ โดยตนเป็นคนจ่ายเงินแล้วให้สามีเก็บลอตเตอรี่ไว้ จนกระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สามีได้มาบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 เลข 589227 งวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 2 ใบ ได้ไปขึ้นเงินมาแล้ว 12 ล้านบาท
...
นางสาวณัฐนันท์ กล่าวต่อว่า ตนและสามีก็ได้อยู่กันตามปกติ ต่างดีใจว่าต่อไปนี้จะมีเงินมาชดใช้หนี้ ซึ่งฝ่ายสามีได้ให้เงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อให้นำไปชดใช้หนี้สินบางส่วน แต่เงินส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับสามี
ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สามีได้ขอกลับบ้านเกิดที่ จ.สุโขทัย แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อสามีไม่ได้อีกเลย ถูกบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ ตนจึงต้องเดินทางมาปรึกษาทนายรณณรงค์
ทั้งนี้ ทนายรณณรงค์ ได้แนะนำว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน และต้องไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และที่สำคัญคือ แม้ว่าสามีภรรยาจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่กันแบบฉันสามีภรรยาจริง และฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกลอตเตอรี่จะต้องแบ่งให้อีกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันตามข้อกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 12 ล้านจริง และได้ไปขึ้นเงินเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 โดยเป็นเช็คธนาคารกรุงไทย จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุจำนวนเงิน 11,940,000 บาท ถูกหักภาษีจำนวน 60,000 บาท
นางสาวณัฐนันท์ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตนและสามีได้นำเช็คไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร โดยเป็นชื่อของฝ่ายชายทั้ง 2 บัญชี คือ 1. บัญชีฝากประจำ ฝากไป 7 ล้านบาท และ 2. บัญชีสะสมทรัพย์ทั่วไป ฝากไป 4,940,000 บาท
จากนั้นสามีได้ถอนเงินออกมา 4 แสนบาท นำไปไถ่รถกระบะจากไฟแนนซ์ 340,000 บาท จ่ายค่าประกันรถ 15,000 บาท และในเดือนเดียวกันสามีให้เงิน 1 แสนบาท 2 ครั้ง รวมเป็น 2 แสนบาท เพื่อให้นำไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว
ต่อมาปลายเดือนมีนาคม 2563 สามีให้เงินอีก 130,000 บาท เพื่อให้ลงทุนทำธุรกิจหน้ากากอนามัย ซึ่งตนคืนให้ 40,000 บาท รวมแล้วสามีให้เงินทั้งหมดจำนวน 730,000 บาท ซึ่งตนอยากให้อีกฝ่ายเห็นใจ เพราะเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ก็เป็นเงินที่หามาด้วยกัน.