(ภาพ : คนที่ติดค้างอยู่ในสหราชอาณาจักร ทั้งนักเรียน นักศึกษาและคนทำงาน 264 คน ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลไทย ผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ และ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ให้กลับได้ โดยขึ้นเครื่องที่สนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ.)
“จะไม่ทิ้งใครไวข้างหลัง ขอคนไทยทุกคนสู้ภัยโควิด-19 ไปด้วยกัน” คำพูดนี้ คนไทยทุกคนคงจำได้ดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดย้ำไว้ในวันที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายนี้
ช่วงเกิดวิกฤติเกิดภัยพิบัติโรคระบาดโควิด-19 เป็นบทพิสูจน์คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดี นอกจากจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านต่างๆ
...
โดยเฉพาะ คนไทยที่ติดค้างและอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ทางรัฐบาล ไม่ได้ทอดทิ้งเช่นกัน หามาตรการและวิธีการที่จะช่วยเหลือให้กลับประเทศมาเป็นลำดับ
คนไทยที่อาศัยทำมาหากินและค้าขายอยู่ในต่างประเทศปีหนึ่งส่งเงินกลับและทำรายได้เข้าประเทศไทยหลายพันล้านบาท และมีสิทธิความเป็นพลเมืองไทยเท่าเทียมกับคนไทยทุกคน
นักเรียนและนักศึกษาที่ไปศึกษาอยู่ในประเทศต่างๆ ล้วนเป็นอนาคตของประเทศ ที่จะนำวิชาความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่กลับมาพัฒนาประเทศ จึงถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต
อีกทั้งยังมีพ่อแม่และผู้ปกครองในประเทศไทย ที่เฝ้ารอคอยการกลับบ้านด้วยความเป็นห่วง และรัดทดใจที่เห็นลูกๆ ต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยจากไวรัสโควิด-19 ในบางประเทศที่ไม่เหลียวแลชาวต่างชาติ
นี่คือเหตุผลหนึ่งในภารกิจ ที่ รัฐบาล ต้องพาคนไทยเหล่านี้กลับแผนดินเกิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายดอน ปรมัติวินัย รมว.การต่างประเทศ และ นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กำกับ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ ในแต่ละประเทศดำเนินการ
เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ ตลอดจนข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานต่างๆที่ประจำการอยู่ในต่างประเทศ จึงนับเป็น “นักรบแนวหน้า” ที่ต้องเสี่ยงภัยและคอยประสานกับชุมชนไทย ในการช่วยเหลือนำชาวไทยที่ติดค้างในต่างประเทศกลับบ้าน
ถ้าไม่บอกคงจะไม่รู้กันว่า ข้าราชการบางคน ในบางประเทศอต้องเสียงภัยกับการที่อาจจะติดโควิด-19 ได้ เพื่อไปช่วยเหลือคนไทย บางคนต้องอดทนเสียงต่อว่าสารพัด จากคนไทยที่ร้อนใจกลัวจะไม่ได้กลับบ้าน พบเรื่อง ดราม่ามากมาย
แต่ข้าราชการทุกคนไม่ท้อแท้ เพราะเข้าใจความร้อนรนของคนไทยที่ติดค้างและอยากกลับบ้าน ทุกคนมุ่งมั่นในภารกิจพาคนไทยกลับบ้านโดยเร็วตามนโยบายรัฐบาล
บางคนอดหลับอดนอนต้องประสานระหว่างสถานทูตและสถานกงสุล เพื่อให้ส่งคนไปดูแลคนไทยที่ต้องไปต่อเครื่องบินในแต่ละประเทศ นับเป็นเบื้องหลังที่คนภายนอกไม่ได้รับรู้กัน
ภารกิจพาคนไทยกลับบ้าน อีกประเทศที่มีเรื่องน่าประทับใจคนไทยในที่ได้กลับบ้าน คือเที่ยวบินพา คนไทยในสหราชอาณาจักร กลับบ้านเมื่อวันที่ 17 พ.ค.256 เวลา 21.25 น. โดย Eva Air ถึงกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ค.
หลังจากได้รับอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศ นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุง ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ออกประกาศให้คนไทยในสหราชอาณาจักร ลงทะเบียนวันที่ 14 พ.ค.2563 ปรากฏว่าเปิดลงทะเบียน 10 นาที คนลงทะเบียนทางออนไลน์ ล้นเกินโควตา 200 คน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและรีบติดต่อทุกคนให้ทราบขั้นตอน การตรวจสุขภาพเพื่อรับใบรับรอง Fit To Fly และหนังสือรับรองการเป็นคนไทย รวมทั้งจ่ายค่าเครื่องบิน ก่อนนัดวันตรวจสุขภาพ และรับใบรับรอง
นายพิษณุ เอกอัครราชทูต จัดให้ตรวจสุขภาพสำหรับคนที่อยู่ในกรุงลอนดอนและใกล้เคียงวันที่ 15-16 พ.ค.ที่สถานทูต เชิญ แพทย์ไทย ประจำโรงพยาบาลในอังกฤษ และ นักเรียนแพทย์ไทย มาเป็นแพทย์จิตอาสาในการตรวจสุขภาพให้คนไทยที่จะกลับ
แพทย์ไทยในอังกฤษและนักเรียนไทย ต่างเสียสละมาช่วยกันอย่างเต็มที่โดยตรวจให้ฟรี มีการใส่ชุดป้องกันเชื้อโรค และอุปกรณ์คัดกรองอย่างรัดตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
คนไทยทั้งนักเรียนและนักศึกษาต่างประทับใจที่ได้รับการเอาใจใส่อย่างดี คนไทยบางคนพูดภาษาไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะติดต่อและแนะนำการเดินทางไปสถานทูตจนเข้าใจ หลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจที่จะได้กลับบ้าน
วันที่ 17 พ.ค.ก่อนเครื่องบินจะบินตอนค่ำ ทางสถานทูตได้จัดตรวจสุขภาพให้กับคนไทยที่มาจากต่างเมืองอีกเพื่ออำนวยความสะดวก ตรวจกลางวันและบินกลางคืนเลย
ระหว่างคนไทยมาตรวจสุขภาพและขอเอกสาร ด้านหลังสถานทูต นายพิษณุ และ ข้าราชการ ช่วย กันแพ็กหน้ากากอนามัยใส่ป้องกันเชื้อโรค จัดเตรียมสิ่งของและอาหารให้เล็กน้อยระหว่างบินกลับ
ทีมข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน เปิดเผยว่า มีคนไทยอาศัยในสหราชอาณาจักรกว่า 60,000 คน เป็นนักเรียนและนักศึกษากว่า 7,000 คน และในไอร์แลนด์ อีกกว่า 4,500 คน
ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีคนไทยติดเชื้อเสียชีวิต 5 คน มีคนไทยลงทะเบียนขอกลับไทยจำนวนหนึ่ง นอกจากเที่ยวบินวันที่ 17 พ.ค.แล้ว ยังจะมีวันที่ 30 พ.ค.อีกเที่ยวบินของ บมจ. การบินไทย
ส่วนเที่ยวบินวันที่ 17 พ.ค. พาคนไทย 264 คนกลับบ้าน โดยได้รับที่นั่งเพิ่มอีก 64 คน ทันทีที่เครื่องบินทะยานออกจากสนามบิน บางคนหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจและซาบซึ้งใจที่ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน
มีเสียงฝากบอกมากับทีมข่าวว่า ฝากขอบคุณ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ และ ทุกคนที่ดูแลอย่างดี ในการพากลับบ้าน ทำให้รัก ประเทศไทย สุดชีวิต.
ทีมข่าวภูมิภาค