สำนวนน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย ฟังดูขัดแย้ง แยบคายซ่อนความหมาย คนโบราณท่านมีเรื่องอธิบายสอนลูกหลานให้เข้าใจไว้สองเรื่อง

เรื่องแรก ธรรมชาติของปลาในแม่น้ำลำคลองทั่วไป ก็มักจะแหวกว่ายทวนน้ำหากินไปเรื่อยๆ

คนก็ต้องใช้สารพัดเครื่องมือ อวน โพงพาง แห ลอบไซ เบ็ด ฯลฯ กว่าจะจับปลากินได้ก็ต้องใช้เรือตามไปไกลแสนไกล เรียกว่าลงทุนลงแรงไม่น้อยกว่าจะจับปลาได้แต่ละครั้ง

ปลาที่ว่ายในแม่น้ำลำคลองที่แดดส่องถึงนี่แหละ ถูกเปรียบเทียบว่าอยู่กับน้ำร้อนโอกาสรอดปลอดภัยจากมือคนมากกว่า เป็นที่มาของสำนวนน้ำร้อนปลาเป็น

ส่วนปลาอีกพวกชอบอยู่ในน้ำเย็นๆ เช่น ที่มีแพต้นไม้ที่คนทำไว้ริมน้ำหน้าบ้านอยู่เย็นสบายๆ ก็ชวนกันมามากขึ้นๆถึงวันดีคืนดีคนก็หาเครื่องมือมาล้อมจับเอาไปเข้าหม้อแกง

ปลาที่ชอบสบายแบบนี้ เป็นที่มาของสำนวน “น้ำเย็น ปลาตาย”

คำอธิบายน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตายแบบนี้กาญจนาคพันธุ์ ท่านอธิบายไว้ในหนังสือ “สำนวนไทย” ผมเอาของท่านมาเขียนไปแล้วหลายครั้ง

แต่ก็มีเหตุให้ต้องเขียนอีกครั้ง เมื่อครูสอนภาษาไทย สุภาพสตรีท่านหนึ่งเขียนเป็นจดหมายด้วยลายมือบอกมาว่า ที่มาของสำนวนนี้มาจากการทำขนมปลากริมไข่เต่า

แป้งผสมน้ำตาลออกรสหวาน เรียกขนมปลากริม ส่วนแป้งที่ออกสีขาวออกรสเค็มอ่อนเพราะใส่เกลือไปนิดหน่อย ที่เรียก “ไข่เต่า” ละเอียดอ่อนละมุนลิ้นนั้นมาจากฝีมือปั้นที่ปั้นด้วยใจ

แต่หลักสำคัญที่ผู้ใหญ่สอนลูกหลาน... คือตอนปั้น ต้องปั้นตอนน้ำร้อนจัด ขืนชักช้าปล่อยให้น้ำร้อนน้อยลง หรือถึงขั้นเย็น ทั้งไข่เต่าทั้งปลากริมก็จะไม่เป็นตัว

...

นี่คือที่มาของสำนวน น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย

เรื่องขนมปลากริมไข่เต่า ฟังดูเป็นเหตุเป็นผลเหมาะเจาะกว่า ปลาที่ว่ายไปตามแม่น้ำลำคลอง หรือปลาที่เลือกไปอยู่ใต้แพ

ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลไปถึงหมอใหญ่ที่ให้คำแนะนำ การทำสงครามกับเจ้าโควิด-19 คงชอบกินขนมปลากริมไข่เต่า ทั้งยังเข้าใจความนัยของการปั้นแป้งปลากริมไข่เต่า...ถ่องแท้

ว่ากันโดยนิสัยมนุษย์ทั่วไป...ไม่ชอบคำขู่ ชอบแต่คำหวานรื่นหู แต่คำหวานบางครั้งโบราณท่านก็ทัก “เป็นลม” คำขู่ที่เหมือนของขม โบราณท่านก็บอก “เป็นยา” รักษาไข้ เป็นคุณมากกว่า

แต่การจะทำให้คนยอมรับความขมของยา...ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

สถานการณ์โควิด-19 บ้านเรา ตอนที่เจอคนป่วยมากๆ จากสนามมวย หรือจากที่ชุมนุมอะไรก็ตาม...ตอนนั้นเรามองเป็นเรื่องร้าย เรื่องน่ากลัว กลัวกันมาก

เมื่อรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เติมด้วยการห้ามออกจากบ้านกลางคืน ความรักตัวกลัวโรค ช่วยให้คนไทยว่าง่าย นั่งพับเพียบพนมมืออยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ พร้อมกันทั้งบ้านทั้งเมือง

ตัวเลขคนติดเชื้อที่ลดลงต่ำสิบนั้น ยืนยันคำสอนโบราณ ทั้งที่สอน น้ำร้อนปลาเป็น ทั้งที่สอน ขมเป็นยา...

ผมเห็นด้วยกับรัฐบาลทุกประการ ที่ยืดสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป เราจะรอดกันไปได้ด้วยสถานการณ์ที่ทั้งร้อน ทั้งขมนี่เอง.

กิเลน ประลองเชิง