(ภาพ) นพ.วิศิษฐ์ วามวาณิชย์ ผอ. รพ.ศิริราช และ นพ.ลือชา บุญทวีกุล รอง ผอ. รับมอบผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปจากผู้บริหารซีพีเอฟด้วยตนเอง ด้วยความซาบซึ้งใจ.
นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ไม่มีสงครามใดจะคร่าชีวิตของผู้คนมากมายเท่ากับ “สงครามเชื้อโรค”อันเป็นภัยพิบัติโรคระบาดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ในขณะนี้
ถึงตอนนี้มี ผู้ติดเชื้อทั่วโลก ไปแล้วนับล้านคน เสียชีวิตไปแล้วจำนวนมาก และที่น่าวิตกคือยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าสงครามเชื้อโรคครั้งนี้จะยุติลงเมื่อใด
...
ท่ามกลางการยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้มข้นขึ้นของ ประเทศไทย เราได้เห็นความร่วมแรงร่วมใจของชาวไทยทุกสาขาอาชีพ ช่วยกันส่งกำลังใจและให้การสนับสนุนในรูปแบบต่างๆแก่ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “นักรบ” ด่านหน้า ที่ทำงานกันอย่างเสียสละ
แพทย์ พยาบาล และ บุคลากรทางการแพทย์ เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่ชาวไทยทุกคนว่า เป็น “นักรบเสื้อกาวน์” ผู้กล้าหาญ เสียสละและเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพตัวเองในการดูแลผู้ป่วยและต่อสู้กับเชื้อไวรัสร้ายนี้
หากว่า ชาวไทยทุกคน มีจิตสำนึกและร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามคำสั่งของ รัฐบาล และ กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะไม่เป็นพาหะแพร่เชื้อกันเอง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเราทุกคนจะก้าวรอดปลอดภัยไปด้วยกัน
หนึ่งในกำลังใจแทนคำขอบคุณจากภาคเอกชนอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการผลิตอาหารของโลก นำร่องแสดงเจตนารมณ์ประสานความร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยแก่ โรงพยาบาลรัฐ ภายใต้ “โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัย COVID–19”
เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นกำลังใจให้แก่ ทีมแพทย์พยาบาล และ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอด 24ชั่วโมง ในการดูแลผู้ป่วยคัดกรองกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง และป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัย และต้องการแบ่งเบาภาระในการจัดหาและเตรียมอาหารของบุคลากรทางการแพทย์ใน โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ ตลอดจนต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้รอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้
“แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ เปรียบเสมือนทัพหน้าในการสู้รบกับศัตรูที่มองไม่เห็น เป็นผู้ที่เสียสละ เป็นผู้มีความรู้และทำงานกับความเสี่ยง แม้ซีพีเอฟไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ แต่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหาร จึงขอมีส่วนร่วมการผลิตและจัดหาอาหารปลอดภัย สะอาด ในรูปแบบอาหารสำเร็จรูป ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างเพียงพอ และมีกำลังในการปฏิบัติภารกิจอันหนักหน่วงได้อย่างเต็มที่” นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ได้สนับสนุนอาหารปลอดภัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว จัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารให้แก่โรงพยาบาลกว่า 70แห่ง
อาทิ สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พิษณุโลก อุบลราชธานี นครราชสีมา ภูเก็ต ตลอดจน 3 จังหวัดชายแดนใต้
การจัดส่งอาหารปลอดภัยให้ถึงมือบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล 70 แห่งในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ บริษัทฯได้ใช้ ทีมซีพี เฟรชมาร์ท ดีลิเวอรี และ เครือข่าย นำอาหารไปมอบให้กับโรงพยาบาลทุกวัน
อีกทั้งยังคงเดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลในกรุงเทพฯหรือในจังหวัดห่างไกล เพื่อเป็นกำลังใจให้กับความทุ่มเทในการทำงานเพื่อเอาชนะโรคร้ายในครั้งนี้
นอกจากนี้โครงการฯยังได้มีส่วนร่วมสนับสนุนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ โดยสนับสนุนอาหารให้แก่ประชาชนที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเองเป็นเวลา 14วันหลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจำนวนกว่า 10,000 รายได้มีอาหารทานครบทุกมื้อโดยไม่ต้องออกมาจากบ้าน
พร้อมกับร่วมมือกับ กลุ่มทรู แจกซิมในแคมเปญ “ซิมกักตัว ไม่กลัวเหงา” จาก ทรูมูฟ เอช เพื่อให้ผู้ที่กักตัวได้ทำงานหรือติดตามข่าวสารด้วยอินเตอร์เน็ตฟรีอีกด้วย
ซีพีเอฟ มุ่งมั่นที่จะผลิตอาหารคุณภาพ ปลอดภัย ตามมาตรฐาน Food safety เพื่อให้คนไทยมีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอและจะดำเนิน โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัย COVID–19” อย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในโครงการทำดีตอบแทนคุณสังคม
“ขอเป็นอีกองค์กรหนึ่งที่มีส่วนมอบคำขอบคุณจากใจแก่ทีมแพทย์ ทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นทัพหน้าในการต่อสู้กับวิกฤติที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับมนุษยชาติ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยกันต่อสู้เพื่อเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ได้โดยเร็ว” นายประสิทธิ์กล่าว
ทั้งหมดนี้คือหนึ่งในความร่วมมือของภาคเอกชนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งพี่น้องประชาชนคนไทยในการต่อสู้กับไวรัสร้ายโควิด-19
ถ้าพี่น้องคนไทยช่วยกัน ผนึกกำลังกันต่อสู้ ปฏิบัติตัวเอง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เชื่อว่าเราทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน.
ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน