กระทรวงสาธารณสุข เผยบทลงโทษ สำหรับผู้ป่วยปกปิดข้อมูล เพื่อรับมือไวรัส "โควิด-19" พร้อมเผยข่าวดี มีผู้ป่วยหายเพิ่มอีก 3 รายแล้ว

วันที่ 27 ก.พ. 2563 ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

  • สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562 จนถึง 26 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศจีน 78,168 ราย เสียชีวิต 2,718 ราย ส่วนผู้ป่วยยืนยันนอกประเทศจีน 2,918 ราย สรุปรวมผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 40 ประเทศ 2 เขตปกครอง รวม 81,229 ราย เสียชีวิต 2,769 ราย
  • ข่าวดี มีผู้ป่วยกลับบ้าน 3 ราย โดยทั้ง 3 รายเป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เข้ารับการรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร 2 ราย และ โรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย
  • โดย 3 รายเป็นคนจีน 2 เข้ามาก่อนจะมีการปิดสนามบิน คนไทย 1 คน มีประวัติเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ นับเป็นข่าวดีเรื่องการรักษา โดยประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิต
  • อัตราหายป่วยคือ 2 ใน 3 แล้ว ทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลแล้ว 27 ราย ที่เหลือรักษาอยู่ 13 ราย คาดจะได้กลับบ้านเร็ววันนี้
  • จากกรณีข่าวเมื่อวานนี้ของปู่ย่า ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วยสร้างการรับรู้อย่างมากให้ประชาชน ส่งผลให้สายด่วน 1422 ของกรมควบคุมโรค มีสายเข้ามาถล่มทลายกว่า 1,300 กว่าสาย
  • สำหรับเคส ปู่ย่า ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น ขณะนี้หลานอาการดี อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล ถือว่าทั้ง 3 ราย อาการปลอดภัย แต่ต้องติดตามเป็นระยะ
  • ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง สัมผัสผู้ป่วยทั้ง 3 ราย โดยมีคนในครอบครัวอื่น เด็กในโรงเรียน บุคลากรทางการแพทย์ รวม 101 คน โดยผลออกมาแล้ว 97 ราย เป็นลบ ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 4 คน เพิ่งตรวจ อยู่ระหว่างการรอผล

...

  • สำหรับเรื่องห้องแล็บที่คนถามเข้ามาว่าเพียงพอมั้ย ขณะนี้มีทั้งหมด 7 สถานที่ อยู่ทั่วภูมิภาค ขอให้มั่นใจในระบบที่ทำกันอยู่
  • อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับผู้ที่ไม่กักตัว 14 วัน และไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงนั้น ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งถ้าประกาศออกมาแล้วนั้น กฎหมายจะมีผลทันที คือ ถ้าไม่แจ้งความจริงจะโดนปรับ 20,000 บาท
  • ทั้งนี้ หวังว่ากฎหมาย รวมกับการให้ความรู้ของกระทรวงสาธารณสุข จะทำให้คนไทยปลอดภัย และลดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น


สำหรับข้อแนะนำ 9 ข้อ มีดังนี้

1. ถ้าต้องเดินทางไปต่างเทศ โปรดติดตามจาก กรมควบคุมโรค เพื่อเช็กรายชื่อประเทศต่างๆ เพื่อการตัดสินใจ

2. ถ้าพบว่าโรคมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ควรเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

3. ถ้าจำเป็นต้องเดินทาง ควรปฏิบัติตัว คือ ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนกลาง ใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่คนแออัด

4. ระหว่างเดินทางถ้ามีไข้ ให้แจ้งแพทย์ หรือ สถานทูตไทย ณ ประเทศนั้นๆ โดยด่วน

5. หลังเดินทาง ขอความร่วมมือทุกท่านที่เดินทางผ่าน ตม. ของทุกหน่วย ถ้ามีไข้โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

6. ถ้าคัดกรองแล้วไม่พบว่าป่วย ก็ขอความร่วมมืออยู่บ้าน เพื่อรับผิดชอบต่อตนเอง และเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม

7. ถ้าภายใน 14 วัน แล้วมีอาการ ควรไปโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านทันที แล้วแจ้งเรื่องจริงทุกอย่างแบบเปิดเผย

8. ถ้าพบแพทย์แล้ว ส่งตรวจผ่านห้องปฏิบัติการแล้วไม่พบเชื้อ ถ้ายังอยู่ในระยะเวลา 14 วัน ถือว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ ขอให้กลับไปดูแลตนเองที่บ้าน แล้วกลับมาพบแพทย์ตามนัด

9. เรื่องข้อมูลทางการที่เชื่อถือได้มี กรมควบคุมโรค และ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422