เปิดใจ "พ่อปารีณา" ยืนยันไม่คิดหลบหนี ชดใช้ค่าเสียหายแล้ว 1 หมื่นบาท พร้อมแจงทุกเรื่องจริง ฉะโซเชียลทำให้ถูกมองเป็นคนชั่ว จนไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว

จากกรณี พ่อปารีณา ขับรถเบนซ์ชนเด็ก 16 บาดเจ็บข้อเท้าฉีก พยานตามถ่ายคลิปอ้างไม่ยอมลงจากรถ ท่าทีคล้ายหนี สุดท้ายบอกเอง "ผมคือ ทวี ไกรคุปต์" จนถูกสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมวาระเวลา 1 โรงแรม ณ เวลา ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี นายทวี ไกรคุปต์ ได้เปิดแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากบ้าน เพื่อไปซื้อหนังสือพิมพ์และก๋วยเตี๋ยวในตลาดเทศบาลเมืองโพธาราม แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยก ได้ชะลอรถมองซ้ายขวาแล้ว ไม่มีรถ จึงตัดสินใจขับรถข้ามไป แต่จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์วิ่งมา

ส่งผลให้ ช่วงหน้ารถเบนซ์ไปเฉี่ยวที่บริเวณท้ายรถจักรยานยนต์ ทำให้รถเสียหลัก และคนเจ็บกระเด็นไปพร้อมรถประมาณ 15 เมตร แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางแยก ทำให้ไม่กล้าที่จะจอดรถลงไปดูคนเจ็บ เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และมองไปเห็นว่าคนเจ็บไม่เป็นอะไรมาก จึงตัดสินใจขับรถไปข้างหน้าเพื่อจะกลับรถมาดูคนเจ็บ

...

เมื่อกลับมาก็สอบถามคนเจ็บแล้วว่าเป็นอะไรมากไหม และพยายามจะพาไปโรงพยาบาล แต่เด็กอ้างว่าต้องรอแม่ และเห็นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กำลังทำแผลให้เด็ก โดยพบว่าผ้าพันแผลและอุปกรณ์นั้นไม่สะอาด จึงพยายามจะพาเด็กไปโรงพยาบาลเพราะกลัวติดเชื้อจากอุปกรณ์ปฐมพยาบาล แต่เด็กก็ยังไม่ไป ตนจึงขึ้นมานั่งรอในรถ และเห็นว่ามีรถคันหนึ่งขับออกรถไป จึงขับรถตามเพราะคิดว่าคนเจ็บอยู่ในรถ แต่รถคันดังกล่าวกลับไม่ยอมไป ตนจึงบีบแตรไล่เพื่อจะให้ไปโรงพยาบาล

จนมาทราบว่าคนเจ็บไม่ได้อยู่ในรถคันดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงได้สอบถามหาร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อจะนำไปซ่อม โดยยืนยันว่าไม่ได้คิดจะหลบหนี และตอนนี้ก็ได้ดูแล ทั้งเรื่องของการซ่อมรถ และค่าทำขวัญให้กับเด็กไปแล้ว และตนเองก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 500 บาท ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

อีกทั้ง เมื่อสอบถามพ่อของเด็กแล้วว่า จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ เขาก็บอกว่าแล้วแต่จะให้ ไม่เรียกร้อง ตนจึงให้ไป 1 หมื่นบาท เขาก็พอใจ ส่วนที่ตนมีการต่อว่าคนตามถ่ายภาพนั้น ก็เพราะเห็นมีชายคนหนึ่งตามถ่ายภาพ ตนไปไหนมาไหนก็ต้องระวังตัวด้วย ตามถ่ายภาพเพื่อไปให้คนไม่หวังดีมาปองร้ายตนหรือเปล่าก็ไม่รู้

อย่างไรก็ตาม มาถึงช่วงหนึ่ง นายทวี ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า คลิปที่ออกมาทางโซเชียลนั้น เป็นการตัดต่อแสนเปอร์เซ็นต์ สังคมบัดซบ โซเชียลบัดซบ หากเหตุเกิดกับคนอื่นไม่มีใครสนใจหรอก แต่นี่เป็นผม ทวี ให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย ผมขับรถเพื่อไปตามร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ มีตำรวจตามไปด้วย ถามชาวบ้านไม่มีใครเชื่อหรอกว่าผมจะเป็นคนอย่างนั้น โซเชียลทำให้ผมเป็นคนชั่ว คนก็ชอบดูข่าวอย่างนี้ สังคมเป็นอย่างนี้ ไม่อยากอยู่แล้วเมืองไทย จะไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

นายทวี กล่าวอีกว่า ตนจะเดินทางไปที่กองบังคับการกองปราบปราม เพื่อแจ้งความคนที่เป็นต้นเหตุนำคลิปมาเผยแพร่ แต่จะไม่ฟ้องสื่อมวลชนหรอก ทุกฉบับ ทุกช่อง แม้จริงๆ จะทำให้เสียหายมาก ตนไม่มีเวลามาเปิดดูคลิปหรอก เอาเวลาไปดูข่าวดีกว่า มีเรื่องต้องทำเยอะ แต่มีคนดูคลิปให้ตน ลูกสาวตนก็จบเอกไอทีจากเมืองนอก