ตำรวจทางหลวงแจงดราม่าไลฟ์สดปะทะอารมณ์กับรถขนพริกจนยางระเบิด เผยเป็นอุบัติเหตุ และได้เปลี่ยนยางให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท 

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งไลฟ์สดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจ ยึดกุญแจรถกระบะขนพริก ซึ่งมีการโต้เถียงกันไปมา ก่อนจะเกิดเสียงยางรถระเบิดขึ้น พร้อมกับตำรวจทางหลวงคนหนึ่งที่ไปตรวจรถได้รับบาดเจ็บและวิ่งมาขอความช่วยเหลือให้พาไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งต่อมามีการตั้งข้อสงสัยว่ายางรถถูกเจาะจนระเบิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด วันที่ 3 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง รองสว.สทล.3กก.7 บก.ตำรวจทางหลวงซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า การเรียกตรวจค้นรถกระบะคันนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติดตามที่ได้รับรายงานซึ่งจะใช้วิธีซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า

แต่การตรวจค้นอาจเสียเวลา ทำให้คนขับไม่พอใจและไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางสถานีตำรวจทางหลวงทางหลวง 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งตำรวจคู่กรณีและตำรวจทางหลวงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่

...

โดยเฉพาะเรื่องยางระเบิดซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าถูกตำรวจเจาะหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า ตำรวจไม่ได้เจาะเป็นอุบัติเหตุยางระเบิดขณะที่ตำรวจทางหลวงนายนี้ก้มดูใต้ท้องรถพอดี ส่วนอาการของตำรวจทางหลวงนายนี้มีอาการแน่นหน้าอกและบาดเจ็บที่แขนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและขณะนี้อาการปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนยางให้และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกันและพริกก็ไม่ได้เสียหาย

หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท และพูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้งสองฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี ทางคนขับรถกระบะขนพริกเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และพอใจการช่วยเหลือของตำรวจทางหลวงที่เป็นไปด้วยความรวดเร็วจนสามารถส่งพริกได้ทันเวลาไม่เสียหาย

แต่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงในขณะเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิปนั้นหากพบว่าผลการสอบสวนเรื่องมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัยโดยไม่ละเว้น