ลูกสาวอาม่าฮวย โต้ ไม่เคยคิดเนรคุณ ฮุบเงินแม่ แจงเงินในบัญชีมีแค่ 100 ล้าน จ่อฟ้องกลับ บอกที่ผ่านมาอยากจะปรับความเข้าใจกับแม่ แต่ถูกกีดกัน 

จากกรณี นางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี และ นางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ หลานสาว ผู้รับมอบอำนาจ พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องธนาคารแห่งหนึ่ง และพนักงานของธนาคาร เป็นจำเลย ที่ 1-5 และมีจำเลยที่ 6 เป็นบุตรคนที่ 2 ของนางฮวยเอง ว่ายักยอกเงินเกือบ 300 ล้าน ไปจากบัญชี ซึ่งเมื่ออาม่าทวงถามลูกสาว ก็ได้รับคำตอบว่า เงินใช้ไปหมดแล้ว

วันนี้ (25 พ.ย.) นางมาวดี ศรีวิรัตน์ อายุ 53 ปี ลูกสาวของอาม่าฮวย หรือ นางฮวย พร้อม นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

โดย นางมาวดี ยืนยันว่า เงินในบัญชีมีอยู่เพียงกว่า 100 ล้านบาท ไม่ใช่ 250 ล้านบาท ตามที่ฝั่งครอบครัวพี่ชายกล่าวอ้าง จึงเชื่อว่าเป็นการสร้างตัวเลขให้ดูยอดเงินสูง และน่าสนใจ รวมทั้งตนเองไม่ได้ร่วมมือกับพนักงานธนาคาร ตามที่ถูกกล่าวหา แต่มีการเชิญพนักงานธนาคารมาที่โรงพยาบาล เพื่อเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงิน จากเดิมที่ใช้เพียงลายเซ็นของมารดา มาเป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือ และเปลี่ยนจากบัญชีของมารดา มาเป็นบัญชีร่วมกับตน เพื่อที่ตนจะได้มีสิทธิ์ในการเบิกถอนเงินในบัญชีนั้น เพื่อความสะดวกในการนำเงินดังกล่าวไปซื้อกองทุนเพิ่มเพื่อเก็งกำไร 

ซึ่งทุกขั้นตอน มารดารับทราบ และรู้ตัวตลอด มีสติสัมปชัญญะ ซึ่งการถอนเงินจากบัญชีร่วม ทำทั้งหมด 4 ครั้ง จำนวนรวมกว่า 100 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดบัญชีร่วม เมื่อปี 57 พวกตนก็ได้มีแบ่งเงินกับพี่ชาย คนละ 30 ล้านบาท ที่เหลือใช้สำหรับดูแลรักษามารดา และใช้จ่ายในครอบครัว ก่อนที่บัญชีดังกล่าวจะปิดไป

...

นอกจากนี้ นางมาวดี ยังยืนว่าไม่เคยคิดเนรคุณมารดา และไม่คาดคิดว่ามารดาจะฟ้องร้องตนเองเช่นนี้ ยอมรับว่าเสียใจมาก เพราะตนเองไม่มีโอกาสปรับความเข้าใจ หรืออธิบายเรื่องราวให้กับมารดาฟังเลย เพราะครอบครัวพี่ชายกีดกันไม่ให้พบหน้า และเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมีบุคคลที่สามคอยบงการอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้มารดาเข้าใจผิด

ซึ่งการออกมาให้ข่าวของครอบครัวพี่ชายทำให้ตนเองถูกสังคมประณามว่า เป็นลูกเนรคุณ รวมถึงถูกด่าทอ ซึ่งขณะนี้ตนเองอยู่ระหว่างปรึกษากับทนาย และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อฟ้องกลับ ในข้อหาแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง