กลายเป็นกระแสที่โซเชียลให้ความสนใจอย่างมาก กรณีเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์บริษัทการ์ตูนแห่งหนึ่ง ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากประดิษฐ์กระทงขายโดยติดรูปตัวการ์ตูนชื่อดัง โดยเรียกเงินกว่า 50,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์นั้น ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ขอไล่เรียงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสรุปง่ายๆ ดังนี้

  • น้องพิมมี่ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี บ้านอยู่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำกระทงข้าวโพดกรอบขายในเฟซบุ๊กราคา 29 บาท เพื่อหารายได้พิเศษจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน เพื่อจะได้ไม่ต้องรบกวนเงินของพ่อแม่
  • ช่วงเย็นวันที่ 1 พ.ย. 2562 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งติดต่อสั่งให้น้องพิมมี่ ทำกระทงจำนวน 136 ชิ้น โดยให้กระทงแต่ละอันติดรูปภาพการ์ตูนดัง เช่น คุมะ และ แมวการ์ฟิลด์ โดยให้ค่ามัดจำมาก่อน 200 บาท
  • หลังจากได้รับออเดอร์จากลูกค้า น้องพิมมี่ เร่งทำกระทงตั้งแต่เช้า เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 01.30 น. ของอีกวัน เพื่อให้ทันส่งให้ลูกค้า

...

  • เมื่อถึงเวลานัด วันที่ 3 พ.ย. 2562 น้องพิมมี่ ได้นำกระทงจำนวน 30 ชิ้น ไปส่งให้กับลูกค้าคนดังกล่าวที่ประตูชุมพล บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยเพิ่งทราบว่า ลูกค้าคนดังกล่าวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัทการ์ตูน น้องพิมมี่ จึงถูกล่อซื้อจับกุม และถูกนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครราชสีมา
  • จากนั้น ตัวแทนลิขสิทธิ์ 4-5 คน พาน้องพิมมี่เข้าห้องดำ แล้วพูดข่มขู่ให้เซ็นรับสารภาพ โดยโทรหาแม่น้องพิมมี่ให้หาเงินมาเสียค่าปรับ 50,000-400,000 บาท แต่แม่น้องพิมมี่บอกไม่มีเงิน
  • ตัวแทนลิขสิทธิ์ อ้างเข้าใจ แล้วลดค่าปรับให้เหลือ 1 หมื่นบาท แต่แม่น้องพิมมี่ไม่มีเงินให้ เนื่องจากเดือนหน้าต้องคลอดลูกในท้องอีกคน น้องพิมมี่จึงยอมขอติดคุกทั้งน้ำตา เพราะสงสารแม่
  • สุดท้ายเจรจาค่าเสียหายจบลงเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ตัวแทนลิขสิทธิ์จึงยอมถอนแจ้งความ
  • ต่อมา ได้มีการแชร์ภาพในโลกออนไลน์ เป็นภาพเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากประดิษฐ์กระทงขายโดยติดรูปตัวการ์ตูนชื่อดัง จนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
  • วันที่ 5 พ.ย. 2562 พ่อน้องพิมมี่ ออกมายอมรับว่าลูกทำผิดจริง แต่เด็กทำไปเพราะแค่ต้องการหารายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ซึ่งตัวแทนลิขสิทธิ์ก็ไม่ควรหากินกับเด็กแบบนี้
  • น้องพิมมี่ เปิดใจหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กลับบ้านมาร้องไห้ตลอดทั้งคืน เพราะไม่เคยโดนคดีอะไรที่ร้ายแรงแบบนี้มาก่อน
  • ต่อมาในวันเดียวกัน ทางบริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์ โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย ตอนนี้ได้ทำการปรึกษาฝ่ายกฎหมายและมอบหมายให้ทนายความดำเนินการสืบหาความจริงในกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เผยว่า เรื่องการดำเนินคดีนั้น ผู้ร้องทุกข์ได้ถอนแจ้งความไปแล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ขณะนี้เกิดประเด็นที่ว่า บริษัทลิขสิทธิ์ดังกล่าวไม่เคยมอบอำนาจให้ใคร ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ต้องเช็กเอกสารให้ละเอียดอีกครั้ง โดยตอนนี้ติดต่อทนายบริษัทลิขสิทธิ์ดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วว่าผู้ที่มาแจ้งความ ปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว ต้องโดนดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารและแจ้งความเท็จ โดยขอเวลารวบรวมหลักฐานให้เร็วที่สุด ส่วน น้องพิมมี่ ยังคงมีโอกาสที่จะได้เงิน 5,000 บาทคืนเช่นกัน.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง