ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.)เปิดเผยว่า จากการติดตามการจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ในส่วนของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พบว่า อว.ได้รับงบประมาณ จำนวน 127,895 ล้านบาท เมื่อเทียบกับก่อนการจัดตั้งเป็นกระทรวง อว. ซึ่งนำงบหน่วยงานต่างๆที่โยกมาสังกัด อว.ของปี 62 รวมกันเท่ากับ 135,836 ล้านบาท เทียบแล้วยอดรวมงบประมาณลดลงถึง 7,941 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 5.846 จากปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อนำงบฯด้านการศึกษาทั้งหมด โดยรวมงบฯของกระทรวงศึกษาธิการปี 63 จำนวน 3.68 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 386 ล้านบาท รวมกับงบฯของ อว. 127,895 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 7,941 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมงบด้านการศึกษาปี 63 ลดลงถึง 8,327 ล้านบาท ขณะที่งบกระทรวงกลาโหมปี 63 จำนวน 2.33 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,200 ล้านบาท จากงบปี 62 ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวเห็นชัดว่างบฯปี 63 นี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับงานด้านความมั่นคงสูงกว่าด้านการศึกษา

“ผมตั้งข้อสังเกตถึงเป้าหมายและดัชนีชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของ อว. 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านธรรมาภิบาล มีการตั้งเป้าคะแนนหรือความโปร่งใส ปี 63 ไว้ที่ 84 คะแนน ปี 62 ตั้งเป้าไว้ 83 คะแนน แม้จะเพิ่มมา 1 คะแนน แต่ความจริงแล้ว อว.เป็นกระทรวงในการสร้างคนของชาติ คะแนนความโปร่งใส ควรเพิ่มในระดับสูง ไม่ควรเพิ่มเพียงแค่ 1 คะแนน ใน 1 ปี” ดร.เชษฐา กล่าวและว่า

2.การพัฒนาส่งเสริมธุรกิจเศรษฐกิจ ได้แก่ นโยบายสตาร์ตอัพ ตัวชี้วัดสำคัญ เช่น จำนวนผู้ประกอบการรายใหม่ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับความสามารถในการแข่งขัน, ร้อยละของผลงานวิจัยและเทคโนโลยีพร้อมใช้ที่ถูกนำไปสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ ให้กับภาคการผลิต ธุรกิจและบริการ, จำนวนผู้ประกอบการที่ใช้ประโยชน์ในเขตนวัตกรรม พบว่า มีการตั้งเป้าปี 63 ลดลงจากปี 62 ซึ่งสวนทางกับนโยบายการสนับสนุนสตาร์ตอัพ และทิศทางพัฒนาประเทศที่มุ่งสร้างนวัตกรรมเพิ่มขึ้น

...

3.การพัฒนาชุมชนสังคมท้องถิ่น ที่ อว.เข้าไปเกี่ยวข้อง, จำนวนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ปี 63 กลับกำหนดเป้าหมายลดลง นอกจากนี้ ร้อยละของผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา และมีงานทำหรือประกอบอาชีพอิสระ ปี 63 ตั้งเป้าไว้ ร้อยละ 75 ของคนมีงานทำภายใน 1 ปี การตั้งเป้าเช่นนี้แสดงว่าภายใน 1 ปี มีคนตกงาน ร้อยละ 25 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ซึ่งไม่ควรเป็นเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ แต่ควรให้คนตกงานน้อยที่สุด.