"เสี่ยท็อป" สายตรงจากฮ่องกงคุยผ่านรายการ "ไทยรัฐนิวส์โชว์" บอกกลับไทยปลาย ต.ค. เตรียมไปประชุมกับทีมกฎหมายที่สิงคโปร์ บอกเจ้าหนี้ให้มั่นใจ มีจ่ายแน่

จากกรณีนางสาวดา (นามสมมติ) ถูก เสี่ยท็อปหมื่นล้าน อายุ 50 ปี อ้างว่าเป็นนักธุรกิจรวยหมื่นล้านหลอกให้แต่งงาน จดทะเบียนสมรส จัดงานที่โรงแรมหรู แต่หนีหนี้งานแต่งเกือบ 6 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 62  เสี่ยท็อป ได้โฟนอินผ่านรายการ "ไทยรัฐนิวส์โชว์" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ซึ่งมีเขมสรณ์ หนูขาว และ ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ เป็นพิธีการ โดย เสี่ยท็อป ระบุว่า ที่ตนต้องออกมาพูดนั้น ก่อนหน้านี้พาดพิงแค่ตนคนเดียว แต่ตอนนี้มันเริ่มเลยเถิด ทำให้ประเทศเสียหาย เช่น การที่ตนตม.ไทยมาฮ่องกง ซึ่งหลายคนก็โทษตม.แต่จริงๆ แล้ว ตนไม่ได้ทำอะไรผิด และตอนนี้ตนไปทำงานให้กับประเทศ ก็มากล่าวหาและทำให้ประเทศไทยเสียหาย

ส่วนที่ว่าตนเปลี่ยนชื่อบ่อยนั้น ขอถามกลับว่า ตอนนี้ตนอายุ 50 แล้ว และเปลี่ยนชื่อนามสกุลมา 3 ครั้ง ขอถามว่า มันเปลี่ยนบ่อยเหรอ มีคนอื่นเปลี่ยนบ่อยกว่าตนอีก ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยน เพราะเชื่อเรื่องดวง ที่ผ่านมาตนแต่งงานมา 6 ครั้ง ล่าสุดกับคุณดาเป็นครั้งที่ 6 ที่เลิกกันเ พราะเรื่องส่วนตัว และไม่อยากพูดสาเหตุที่เลิกกัน ส่วนหนี้งานแต่งงานตนก็จะจัดการเองตามที่สลักหลังไว้ที่ใบหย่า

...

สำหรับ เรื่องหนี้นั้น ตนจะนัดคุยกับเจ้าหนี้ทุกราย หลังจากกลับมาถึงไทย และแถลงข่าวเสร็จ จริงๆ ตนได้จ่ายเงินไปบางส่วน แต่ก็มีเจ้าหนี้บางรายบอก ยังไม่ได้จ่าย ส่วนตัวเงินที่ว่าสูงถึง 6-7 ล้านก็ไม่น่าจะถึง และที่ถามว่าทำไม มีเงินแล้วยังไม่โอนเงินไปให้เขา เอาตรงๆ ตอนนี้เจ้าหนี้ยังบอกตัวเลขไม่ตรงกันเลย บางส่วนก็ให้ไปแล้ว บางเจ้าก็บอกว่า ต้องให้เท่านั้นเท่านี้ ซึ่งตนก็มีหลักฐานเก็บไว้หมดกันว่า เท่าไรอะไรยังไง

"วันจัดงานแต่งมีเข็มขัดทอง 25 บาท เช็คที่ขอให้เขียนมาให้เป็นหน้าเป็นตา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเช็ค 1.6 ล้านหายไปไหน จริงๆ เช็คใบนี้เบิกได้ แต่ข้อตกลงบอกไว้ว่า ไม่ให้เบิก ส่วนสาวที่อ้างว่าถูกหลอกที่ฮ่องกง 7 ล้านก็ไม่จริงอีก ถ้าแบบนั้นเขาก็ต้องแจ้งความแล้ว แต่ทุกวันนี้ไม่มีแบบนั้น คดีที่มีส่วนใหญ่ก็จบไปหมดแล้ว เดี๋ยววันจันทร์หน้า 14 ต.ค.จะประชุมกับทีมกฎหมายเรื่องแถลงข่าวที่สิงคโปร์ ผมจะไปจีนก่อน และคงต้องเลื่อนกำหนดกลับมาไทยประมาณปลายเดือน ต.ค."

ขณะเดียวกัน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่ทำคดีให้กับฝ่ายเจ้าสาวแล้ว ซึ่งเธอไม่ไปแจ้งความกับกองปราบ แต่ส่งข้อความมาว่า จะมีคนพาไปแจ้งความที่กองปราบเอง และตัวเจ้าสาวได้เลื่อนนัดกับทีมทนายมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งตอนนี้เรามีข้อมูลหลักฐานเพียงพอไปต่อสู้กันในชั้นศาลได้ รอเพียงแค่เจ้าสาวไปแจ้งความ แต่ผลออกมาเป็นแบบนี้ ทางทีมงานก็จะไม่ทำคดีให้อีกต่อไปแล้ว

โดยทางเจ้าสาว เปิดเผยสั้นๆว่า  ที่ต้องเลื่อนการแจ้งความ เพราะฝ่ายที่จัดงานแต่งงาน หรือที่เป็นเจ้าหนี้ว่างไม่ตรงกันเลยต้องเลื่อนนัดทนายความ และไม่ได้ไปแจ้งความ 

อ่านข่าว "เสี่ยท็อปหมื่นล้าน"