ครอบครัวเผย "ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์" ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยเริ่มจากท่อน้ำดี กระจายทั่วร่างกายและลามไปที่ปอด

เฟซบุ๊ก ครอบจักรวาล ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงอาการป่วยของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ว่า เรียนทุกท่านทราบ ตามที่ผมได้รายงานอาการป่วยของคุณพ่อมาตลอดตั้งแต่ได้เข้าโรงพยาบาลมาเมื่อวันที่ 29 เดือนที่แล้ว โดยไม่ได้เรียนให้ทราบว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไร

บัดนี้ผมควรจะเล่าข้อเท็จจริงของอาการและโรคของคุณชาย และสาเหตุที่คุณพ่อได้มาอยู่ที่โรงพยาบาล

ในวันที่ 2 เดือน (ส.ค.) ได้ประชุมกับคณะแพทย์ที่ดูแลคุณพ่อ หลังจากได้ไปทำ PET SCAN มาแล้วในวันที่

1. ปรากฏว่า ผลของการตรวจออกมาไม่ดีเลย หากไม่ทำ PET SCAN ก็จะไม่ทราบเลยว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ที่เริ่มจากท่อน้ำดี และกระจายไปทั่วร่างกาย ทางลูกได้ปรึกษากับคุณหมอว่าควรจะดูแลคุณพ่อเช่นไร

เราเห็นพ้องต้องกันว่าการดูแลคุณพ่อควรจะเป็นไปตามอาการและไม่ให้คุณพ่อทรมาน ไม่ให้มีการผ่าตัดหรือเจาะอะไรเลย ให้ประคับประคองไปจนถึงที่สุด และให้คุณพ่อไปอย่างสงบและไม่ทรมาน

ปัญหาของมะเร็งของคุณพ่อนั้นมันกระจายไปทั่ว และที่สำคัญคือ ลามไปที่ปอด ทำให้คุณพ่อหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ หากคุณพ่อมีอาการเหนื่อยในการหายใจก็จะหมายความว่าคุณชายจะเริ่มทรุดลงแล้ว และต้องเริ่มให้ยามอร์ฟีน เพื่อบรรเทาความปวดและความเหนื่อย

ทางทีมแพทย์และลูกๆ ก็หวังว่าคุณพ่อจะอยู่กับเราได้ไประยะหนึ่งโดยยังไม่ต้องใช้ยามอร์ฟีน ในระยะแรก ทางคุณหมอได้ให้ทางครอบครัวกราบบังคมทูลเจ้านายและผู้ใกล้ชิดคุณพ่อ ให้มาหา มาเยี่ยม และมาลาให้เรียบร้อย ในขณะที่คุณพ่อยังแจ่มใสอยู่ และก็หวังว่าคุณชายจะอยู่กับเราไปได้นานหน่อย เพื่อนสนิทส่วนมากของคุณพ่อ คนที่เคารพคุณพ่อก็ได้มากันหมดแล้ว

...

คืนวันที่ 25 อาการคุณพ่อได้ทรุดลงอย่างเร็ว ทางคุณหมอเริ่มให้ยามอร์ฟีนอ่อนๆก่อนเพื่อให้คุณพ่อไม่เหนื่อย และให้อาหารทางสายและมีการดูดเสลดออกจากปอด พ่นยา เพื่อให้คุณพ่อหายใจได้สบายขึ้น

เช้าวันที่ 26 ลูกๆ หลานๆ เข้ามาดูอาการคุณพ่อ คุณพ่อมีอาการปวดเพิ่มขึ้นและมีอาการบวมที่ท้อง เพราะมะเร็งมันเริ่มที่ท่อน้ำดี คุณหมอจึงให้ยามอร์ฟีนเพิ่มตามลำดับ ความดันของคุณพ่อยังดีอยู่ ในวันนั้นยังสงบดี

เช้าวันที่ 27 คุณพ่อ อาการทรุดลงอีก มีเลือดออกมาในกระเพาะ คุณหมอได้ล้างกระเพาะให้ แต่อาการปวดเริ่มมากขึ้น จึงให้ยามอร์ฟีนเพิ่ม งดอาหารและน้ำ เหลือแต่น้ำเกลือและยามอร์ฟีน ความดันเริ่มลดลงมาตามลำดับ แต่ก็ถือว่ายังไม่ทรุดลงมากนัก

เมื่อคืนนี้ คุณพ่อปวดมากขึ้นตามลำดับ oxygen ลดลงมาเหลือ 94-96 บางครั้งก็ต่ำกว่านั้น เมื่อคุณพ่อกลั้นหายใจ ความดันลดลงมาที่ 106 

ผมค้างที่โรงแรมใกล้โรงพยาบาลเปาโล เมื่อคืน และมาที่โรงพยาบาลแต่เช้า คุณพ่อปวดมากขึ้น ร้องและดิ้นไปหมด คุณหมอเพิ่มยามอร์ฟีนไปที่ 4 มิลลิกรัมต่อชั่วโมง เพื่อคุณพ่อจะได้ไม่ทรมาน

การที่เราให้ยามอร์ฟีนกับคุณพ่อนั้น ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับความดันของคุณพ่อ ขณะนี้เป็นระยะสุดท้ายแล้วที่ทางคณะแพทย์และลูกๆ จะพยายามทำให้คุณพ่อไม่เจ็บปวด และจากเราไปอย่างสงบและไม่ทรมาน เราเพียงแต่ดูอาการต่อไป แต่ก็ต้องเริ่มทำใจสวดมนต์ และเตรียมตัวสำหรับการจากไปของคุณพ่อที่เราทุกคนรักและเทิดทูนเหนือสิ่งใดในชีวิต