ความเชื่อเรื่อง "วัตถุมงคล" หรือ "เครื่องรางของขลัง" เป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานนับหลายร้อยปี ถูกเปรียบดั่งที่พึ่งพาทางใจของมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งย่อมถูกเปลี่ยนแปลงให้ทันโลกสมัยใหม่ เช่นเดียวกับคนที่มีความเชื่อ ก็พร้อมที่จะสรรหาวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อมาบูชา ให้จิตใจได้มีที่ยึดเหนี่ยว แต่ก็อาจโดนผู้คนบางส่วนมองเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย แต่ก็ถือเป็นการเคารพในความชอบของแต่ละบุคคล
โดยรูปแบบของ "เครื่องราง" และ "วัตถุมงคล" ก็ถูกดัดแปลงให้คนแต่ละรุ่น สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น มีทั้ง กำไล, สร้อย, พวงกุญแจ โดยบรรดาคนที่ศรัธทาสิ่งของเหล่านั้น ได้เปิดใจให้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ฟังในอีกหนึ่งมุมมอง ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อน
นายปุญญพัฒน์ ทองทรง พนักงานบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง เผยเหตุผลที่กล้าตัดสินใจซื้อกำไล "ไลลา" มาใส่ว่า เป็นเรื่องความสบายใจทางจิตใจ เหมือนได้ซื้อความสุขที่ทำให้รู้สึกดี แม้คนว่าจะมองว่าเป็นสิ่งที่งมงายบ้าบอ แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจ มีแรงกำลังใจในการทำงาน โดยเริ่มใส่ไลลามาตั้งแต่สมัยแรกๆ ตุลาคมปีที่แล้ว เริ่มจากซื้อพื้นฐานคือ "แมลงภู่คำหลวง" กับ "สีผึ้งครูบากฤษณะ"
...
สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้เชื่อมั่นใน "ไลลา" คือการที่เราต้องทำงานกับคนมากมายหลายรูปแบบ หลากหลายอารมณ์ พอมีไลลาติดตัวไว้ก็อุ่นใจ ช่วยทำให้เข้าหาคนหรือการเจรจากับคนหมู่มากได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อนั้น ก็คิดว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล และเคารพสิทธิในความคิดเห็นที่แตกต่าง ถือเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่ น.ส.พฤษภา สนุกพันธ์ สาวออฟฟิศ เผยว่า ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก อุปสรรคในความสำเร็จก็เพิ่มมากขึ้น เหตุผลที่กล้าตัดสินใจซื้อ "เครื่องราง" ราคาแพงมาใส่นั้น จริงๆ ก็ไม่อยากซื้อของแพง แต่กระแสนิยมทำให้สิ่งที่ศรัทธาแพง จึงต้องจำใจยอมจ่าย โดยเริ่มใส่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 เป็นพระเครื่อง 2 ด้าน ด้านแรกเป็นองค์พระพิฆเนศ ด้านที่ 2 เป็นพ่อปู่ฤาษี
"พูดตรงๆ จากใจ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง มันขึ้นอยู่กับศรัทธา ต่อให้ไม่มีราคา แต่หากเราเชื่อว่าท่านมีอยู่จริง คอยปกป้องคุ้มครอง และเราให้ความเคารพท่านก็พอ แต่สำหรับบางคนที่เห็นต่าง ก็ใจเขาใจเรา ไม่เชื่อก็อย่าว่าหาว่างมงาย ให้ดูความสบายใจของบุคคลดีกว่า"
ทางด้าน คุณเสมอ งิ้วงาม หรือ "ป๋อง สุพรรณ' เซียนพระชื่อดัง เผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อ "เครื่องราง" เพราะความศรัทธา พอศรัทธาก็หาของพวกนี้มาเก็บรักษาไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลานได้ดู รวมทั้งเชื่อว่า เมื่อได้ของพวกนี้มา ถือเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว
จากนั้นจึงเริ่มเก็บพวกเครื่องรางและพระเครื่องมาได้กว่า 20 ปีแล้ว โดยมี "เบื้ยแก้" เป็นเครื่องรางชิ้นโปรด ไปไหนก็พกไปด้วย ถือว่าดูแลเราได้ และเหตุผลที่ทำให้เชื่อในเครื่องราง เพราะไม่เคยต้องไปอยู่ในเหตุการณ์ที่วิกฤติหรือเลวร้าย ถ้าสมมติเคยไปเสี่ยงภัย หรือเกิดอุบัติเหตุแล้วรอดมาได้ ถือว่ายังไม่เป็นเครื่องรางที่มงคล ดูแลเรา เพราะเครื่องรางที่คุ้มครองเราได้ ต้องไม่ทำให้เราไปอยู่ในเหตุการณ์ที่วิกฤติ เสี่ยงต่อชีวิต
อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่ไม่ชอบเครื่องราง มองว่างมงาย จริงๆ สิ่งที่เป็นมงคล ควรต้องศรัทธาและเชื่อถือ สิ่งดีๆ ถึงจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพระหรือเครื่องราง ก็ควรจะอนุรักษ์และสะสมเพื่อสืบทอด สำหรับตนถือเป็นปัจจัย 5 เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่ก็มองเป็นเรื่องของความสบายใจ เพราะความพึงพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างเราชอบแบบนี้ จะไปบังคับให้คนอื่นชอบแบบนี้ก็ไม่ได้.