ทนายชี้ การยึดทรัพย์บังคับคดีมีขั้นตอน ไม่ว่าคนรวยหรือจน ทำเหมือนกัน ย้ำศาลไม่สามารถยึดเงินมาคืนเหยื่อคดีแพรวาได้
จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ที่ นางสาวแพรวา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตได้รวมตัวกันมาออกรายการ "ถามตรงๆ กับจอมขวัญ" โดยครอบครัวผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาทางจิตใจ และการชดเชย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เฟซบุ๊ก "ทนายตัวแสบ:Badass Attorney" ได้โพสต์ข้อความอธิบายเกี่ยวกับการบังคับคดี โดยระบุว่า ตามข่าวนั้นผู้เสียหายฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีแพ่ง ซึ่งทางแพรวาก็สู้ลากยาวมาจนศาลฎีกา เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งในส่วนของการปฏิบัติตามคำพิพากษา อยากให้เข้าใจว่าศาลมีคำพิพากษาแล้วก็จริง แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาในวันฟังคำพิพากษา ก็เป็นหน้าที่โจทก์ ต้องส่งคำบังคับ หรือคำพิพากษาไปหาจำเลยก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการส่งไปแล้ว
ส่วนที่สงสัยเรื่องการขอทุเลาการบังคับคดีในชั้นอุทธรณ์นั้น เป็นสิทธิ์ของจำเลย เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด และมีการสู้กันในชั้นอุทธรณ์อยู่ คดีนี้ตอนเกิดเหตุ ผู้ก่อคดีเป็นเยาวชน พ่อกับแม่ต้องรับผิดชอบด้วย ในคำฟ้องมันก็ระบุมาชัดเจนอยู่แล้วว่าฟ้องพ่อกับแม่น้อง เป็นจำเลยร่วมด้วย
...
จึงมี 2 ทางคือ หลังได้รับคำบังคับแล้ว จำเลยเอาเงินมาวางชำระเลย กับไปบังคับคดี ซึ่งน่าจะได้ เพราะคดีนี้ครอบครัวจำเลยมีฐานะพอสมควร ก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย เข้าใจในมุมของผู้สูญเสียว่าอยากได้เงินชดเชยให้เร็วที่สุด แม้มันจะชดเชยชีวิตของลูกเขาไม่ได้ก็ตาม ส่วนน้ำใจ หรือการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมของน้องกับครอบครัว อันนั้นก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
ทั้งนี้ ก็ยังมีหลายคนไม่เข้าใจและคิดว่าศาลสามารถไปไล่ยึดเอาเงินเขามาให้จำเลยได้ทันที ที่จริงตามกฎหมายมีขั้นตอนของการยึดทรัพย์บังคับคดีอยู่ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจน.
(อ่านโพสต์ต้นฉบับ ที่นี่)
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก ทนายตัวแสบ:Badass Attorney
ข่าวที่เกี่ยวข้อง