ยังพอมีแรงก็ขอสู้ต่อ "แซม นักวิ่งสู้มะเร็ง" เผยมะเร็งที่โคนลิ้นขยายใหญ่ขึ้น กินอาหารไม่สะดวก แถมเนื้อร้ายยังกดทับเส้นประสาททำให้ปวดหู ขอบคุณ "แอ้ม" แฟนสาวที่เคียงข้างสู้โรคมาด้วยกัน
จากกรณี นายณัฐพล เสมสุวรรณ หรือ แซม ไอดอลนักสู้มะเร็งคนดัง อดีตผู้ป่วยนอนติดเตียงจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคแพ้ยาอย่างรุนแรง "สตีเวน จอห์นสัน" แต่ก็ไม่ท้อ ลุกขึ้นมาวิ่งมาราธอน ส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ หลังจากมีความเสี่ยงว่าโรคร้ายจะกลับมา ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 แซม ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก Sam's Story โดยระบุว่า ผมเริ่มพูดไม่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ วันก่อนไปกินก๋วยเตี๋ยว น้องคนเสิร์ฟชาวต่างชาติหัวเราะเขินอายเพราะเข้าใจว่าผมแกล้งล้อน้องเค้า "น้ำ แคะ เปา นึง แก่ว" ผมไม่ได้ล้อ ผมพูดไม่ชัด
โดยขนาดของสิ่งแปลกปลอมที่บริเวณโคนลิ้นเริ่มขยายใหญ่มากขึ้น เติบโตจนเบียดบังหลอดอาหารที่ปกติก็มีขนาดเล็กแคบจากโรคแพ้ยาอย่างรุนแรงอยู่ก่อนแล้ว ให้เหลือทางส่งอาหารหล่อเลี้ยงประทังชีวิตอยู่เพียงครึ่งเดียว มิหนำซ้ำระหว่างการเดินทางของอาหาร ยังมีแผลที่สร้างความเจ็บปวดระหว่างทางจนผมแทบจะต้องกลั้นใจทุกครั้งที่จะเลือกกลืนสารอาหาร แม้จะเป็นเพียงน้ำเปล่าก็ตามที นี่คือสาเหตุที่ทำให้ผมทานอาหารได้เพียง ensure หรือ prosure ในทุกวันนี้ และน่าจะอีกสักพักใหญ่ต่อจากนี้
คุณหมอผู้เชี่ยวชาญมองแผลแล้วทราบได้ทันทีว่าแผลระดับนี้ไม่สามารถบรรเทาปวดได้ด้วยยาบรรเทาปวดธรรมดา ผมได้ยามอร์ฟีนมาสองขวดใหญ่ และจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อยาหมดฤทธิ์ แม้จะเป็นช่วงกลางดึกของทุกคืน เพราะนอกจากบดบังทางเดินอาหารแล้ว สิ่งแปลกปลอมนั้นยังกดทับเส้นประสาทของผม
...
นอกจากนี้ เนื้อร้ายนั้นยังทำให้ผมมีอาหารปวดหูอย่างหนัก และเริ่มปวดลามไปทั้งหัวในช่วงหลังๆ ผมไม่ได้กินเต็มที่ ไม่ได้นอนเต็มอิ่มมานานมากแล้ว ตอนนี้ผมกำลังรอคิวทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ MRI ในวันที่ 10 ก.ค. 62 จากนั้นก็พบกับ อ.ภาวิน ที่ศิริราช เพื่อวางแผนการรักษาที่ศิริราชในวันที่ 12 ก.ค. 62
ทั้งนี้ ผมยังมีโอกาสได้ออกไปวิ่ง ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อยู่อีกหลายวัน ก่อนที่จะต้องเข้าไปพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล แอบอิจฉาพี่ๆ ทุกคนที่มีโอกาสได้เลือกกิน มีโอกาสได้เลือกนอน มีโอกาสได้เลือกออกกำลังกาย
"ขอให้พี่ๆ ทุกคนใช้โอกาสของตัวเลือกที่มีให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง เพราะผมเป็นคนที่สามารถบอกพี่ๆ ได้อย่างเต็มปากว่า เมื่อถึงวันที่คุณไม่สามารถเลือกที่จะทำในสิ่งเหล่านี้ได้ คุณจะเสียใจและเสียดายในโอกาสที่เคยมีเหล่านั้น ขอบคุณแอ้มที่อยู่ข้างกันเสมอมา".