ตม.แถลงจับกุมหนุ่มเยอรมัน หลังโซเชียลชื่นชมช่วยเมียไทยขายไก่ย่าง สอบประวัติพบมีหมายจับอินเตอร์โพลเพียบ ขณะเข้าจับยังไหวตัวหนีเข้าป่า ซ่อนคูน้ำ ใช้สายยางช่วยหายใจถึง 2 วัน จนทนไม่ไหว ขอมอบตัว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.ค.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์, พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีอาชญากรรมที่สำคัญในรอบสัปดาห์

โดยคดีแรก จับกุมนายเฟรนเซบเนอร์ แม็กซิมิเลียน (Fernsebner Maximilian) อายุ 34 ปี สัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นบุคคลที่ประเทศเยอรมนีต้องการตัวตามหมายจับ ของตำรวจสากล คดีค้ายาเสพติดทางอินเทอร์เน็ต และเคยมีประวัติก่อคดีชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ และสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ในครอบครองและเผยแพร่

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล ว่ามีชาวต่างชาติช่วยภรรยาชาวไทยขายไก่ย่างอยู่ที่บ้านโป่งประทุน ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแพร่ออกไป มีผู้เข้าไปแสดงความชื่นชมเป็นจำนวนมาก และมีการติดต่อเพื่อนำไปออกรายการโทรทัศน์หลายช่อง แต่นายเฟรนเซบเนอร์ พยายามบ่ายเบี่ยง เนื่องจากตนเองรู้ว่ามีหมายจับ 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบไปยังสถานทูตเยอรมัน พบว่ามีหมายจับของอินเตอร์โพล จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ผู้ต้องหารายนี้ไหวตัวหนีการจับกุม หลบซ่อนในพื้นที่ป่าบริเวณหนองน้ำ หลังเทศบาลปากช่องถึงสองวัน ทำให้ไม่สามารถจับกุมตัวได้ จนกระทั่งวันที่ 3 ได้รับการประสานงานจากทางสถานทูตเยอรมัน ว่านายเฟรนเซบเนอร์ได้ติดต่อไปยังมารดาที่ประเทศเยอรมนีว่าจะขอมอบตัว แต่ต้องให้ทางสถานทูตเยอรมันไปรับตัว และให้ชุดสืบสวนถอนกำลัง

...

หลังเจ้าหน้าที่สถานทูตเดินทางมารับตัวที่บ้านโป่งประทุน นายเฟรนเซบเนอร์ ได้ออกมามอบตัวก่อนรับสารภาพว่าได้หลบซ่อนอยู่ในคูน้ำเป็นเวลาสองวัน โดยใช้สายยางในการช่วยหายใจ กระทั่งทนการหลบซ่อนไม่ไหว จึงติดต่อขอมอบตัว

การตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2560 ซึ่งในตอนนั้นหมายจับอินเตอร์โพลยังไม่ส่งมาถึงประเทศไทย และช่วงที่ปรากฏเป็นข่าวได้เดินทางออกนอกประเทศทางด่านจังหวัดนครพนม เพื่ออำพรางว่าเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว พอเรื่องเงียบก็ว่าจ้างชาวลาวใช้เรือพายข้ามฝั่งเข้ามาในช่องทางธรรมชาติ และหาโอกาสอยู่กินกับสาวไทย โดยกลับไปอยู่ที่บ้านของภรรยาที่คิดว่าจะไม่มีคนพลุกพล่าน กระทั่งมีการชื่นชมผ่านโซเชียล เป็นที่มาในการตรวจสอบข้อมูล สู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด เพื่อทำการผลักดันออกนอกราชอาณาจักร

คดีที่สอง จับกุม 24 สาวงามจากประเทศลาวและเวียดนาม ซึ่งทำงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ ตามสถานประกอบการบริเวณคลองตัน รัชดา และห้วยขวาง ซึ่งมีลักษณะการค้าประเวณีแอบแฝง อันอาจจะนำมาสู่การค้ามนุษย์ได้.