เตือนชาวบ้านอย่าเชื่อ "การ์ดเวทมนตร์" รักษาโรค แท้จริงก็แค่กระดาษธรรมดา พบคนหลงเป็นเหยื่อเพียบ ลักษณะธุรกิจคล้ายแชร์ลูกโซ่
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีชาวบ้านมีการซื้อขาย บัตรสมาร์ทการ์ดที่อ้างว่าเป็นบัตรพลังมีสรรพคุณในการรักษาโรคโดยเฉพาะอาหารปวดเมื่อยต่างๆ ตามร่างกาย
โดยวิธีการใช้ คือนำบัตรไปแตะบริเวณที่ปวด หรือ นำแก้วน้ำไปวางบนบัตร และ นับ 1-10 จากนั้น นำมาดื่มและอีกวิธีหนึ่งคือ การนำเอาบัตรไปแกว่งในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถช่วยอาการปวดให้ทุเลาลงได้ ทำให้มีชาวบ้านหลงเชื่อซื้อหามาใช้ โดยมีตัวแทนซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านนำมาขายในราคา 1,100-1,500 บาท
ล่าสุด เภสัชกรพิฑูรย์ ชุมแวงวาปี เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลอุบลรัตน์ จ.ชอนแก่น กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสุขสำราญและเจ้าหน้าที่จากอำเภออุบลรัตน์ลงพื้นที่บ้านศาลาดิน หมู่ 7
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บัตรดังกล่าวเป็นบัตรแข็งธรรมดามีลักษณะ และขนาดคล้ายบัตร ATM ทั่วไปมองดูด้วยตาเปล่าไม่น่ามีพลังอะไรที่จะทำให้บรรเทาจากการอาการเจ็บป่วยหรืออาการปวดใดๆ ได้
นอกจากนี้ จากการสอบถามก็ไม่พบแหล่งที่มาหรือที่อยู่ของผู้ผลิตบัตรและชื่อที่อยู่ตัวแทน คาดว่าน่าจะเป็นธุรกิจเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ จากนี้ไปรายงานข้อมูลไปยังสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นต่อไป
...
ทางด้านนายทวี เพียรอินทร์ อายุ 57 ปี หนึ่งในชาวบ้านบ้านศาลาดิน หมู่ 7 ที่ได้บัตรมาเล่าว่า เมื่อวันที่ 8-9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปอบรมกับบริษัทบริษัทขายบัตรที่สวนสัตว์เขาสวนกวางเป็นเวลา 2 วัน
ส่วนใหญ่จะอบรมเรื่องขายตรง จากนั้นได้ให้บัตรที่อ้างว่าเป็นบัตรพลังมา 5 ใบให้จ่ายเงิน 4,400 บาท พร้อมบอกสรรพคุณว่าเป็นบัตรที่มีพลังสามารถนำไปใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยได้หลายวิธี ทั้งนำไปแปะที่ปวด แช่น้ำเปล่าแล้วนำมาดื่ม หรือนำแก้วใส่น้ำมาวางบนบัตรแล้วนำไปดื่ม โดยบัตร 1 ใบใช้ได้นาน 10 ปี หลังได้บัตรมาจึงนำมาใช้แปะที่หลังเนื่องจากตนมีอาการปวดหลังมานาน อาการดีขึ้น จึงบอกต่อและขายให้กับเพื่อนบ้านไป 1 ใบ
"ผมซื้อมาทั้งหมด 5 ใบ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาขอความร่วมมือให้หยุดขายบัตรพลัง เพราะจะนำไปตรวจสอบว่าบัตรดังกล่าวรักษาโรคได้จริงหรือไม่ จึงเก็บเอาไว้ใช้เอง 2 ใบ อีกทั้ง บริษัทก็ประสานมาว่าจะลงพื้นที่ มาทำความเข้าใจกับชาวบ้านด้วย"
นางวรรณา แสงหา อายุ 76 ปี ชาวบ้านศาลาดิน กล่าวว่า ลูกสาวมีอาการปวดหลังมานาน ไปหาหมอก็ไม่หายสักที เดินเหินก็ลำบากแต่เมื่อซื้อบัตรพลังนี้มาใช้แปะที่หลังตรง จุดที่ปวดอาการปวดก็ทุเลาลง ตนจึงสนับสนุนเพราะหากใช้แล้วอาการปวดที่เรื้อรังมานานบรรเทาลงก็ไม่เสียดายเงินเพราะสงสารลูกต้องทนกับอาการปวดมานาน
นายหนูเพียร นารีจันทร์ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านศาลาดินหมู่ 7 บอกว่า บัตรพลังเริ่มเข้ามาในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงมาประมาณ 1-2 เดือน โดยมีตัวแทนจากบริษัทมาชักชวนให้ชาวบ้านสมัครเป็นตัวแทนและชักชวนสมัครเป็นสมาชิกและเชิญเข้าไปอบรม เห็นชาวบ้านสนใจไปร่วมกันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่านอกจากจะรักษาอาการป่วยให้ทุเลาลงได้ ยังมีรายได้จากการขาย
ทั้งนี้ ภรรยาตนก็ซื้อบัตรนี้มาใช้ โดยซื้อต่อจากชาวบ้านที่ไปอบรมแล้วนำมาใช้เนื่องจากมีอาการปวดเมื่อยตามแขนขา นอกจากนี้ยังใช้กับลูกเมื่อมีอาการท้องผูกปวดท้องจึงนำมาแปะบริเวณที่ปวด อาการก็ทุเลาลง จนกระทั่งมีข่าวออกมา ซึ่งได้รับการประสานงานจากปลัดอำเภอให้ลงตรวจสอบและรายงาน
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบัตรพลังที่ชาวบ้านได้มาพบว่ามีขนาดเท่าบัตร ATM ทั่วไปบนบัตรระบุรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ LA Genius และมีคำว่า kartu sakti เป็นภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า การ์ดเวทมนตร์
นอกจากนี้ บนบัตรยังมี QR code แต่เมื่อสแกนไปไม่พบข้อมูลใดๆ มี 2 ชนิด สีแดงและสีฟ้า-เขียว ชาวบ้านบอกว่าสีฟ้า-เขียวจะมีพลังมากกว่า หลังมีข่าวออกไปชาวบ้านยังบอกว่ามีตัวแทนบริษัทฯ ติดต่อเข้ามาเพื่อมาทำความเข้าใจ และยังบอกว่าที่ข่าวออกไปไม่เป็นความจริง