ทำอะไรให้เกรงใจสถานที่ แท็กซี่โดนแจกของลับต่อยกันกับคนขี่ จยย. รถสองแถวบุบ เด็กเทคนิคเข้าห้าม ตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "มู๋กวาง ก๋วยเตี๋ยวเงินล้าน" ได้โพสต์ภาพคนทะเลาะวิวาทกันบนถนนเศรษฐกิจ 1 หน้าวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ใกล้สี่แยกไฟแดง สภ.เมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และมีนักเรียนของวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาครเข้าไปช่วยห้ามปราม

ล่าสุด นางสาวโสพิศ ชัยรัตนวัฒน์ อายุ 30 ปี ผู้ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตนกำลังไปส่งลูกสาวเห็นเขายืนคุยกันอยู่พักหนึ่ง แล้วเริ่มมีการเถียงกันดังขึ้น เห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปใกล้ๆ กะว่าจะเรียกให้คนช่วย แต่ไม่ทันไรก็เกิดการต่อยกันรุนแรงขึ้น และมีการใช้อาวุธด้วยเลยถ่ายคลิปไว้ เพราะเกรงว่าจะเกิดการฆ่ากันตาย อีกทั้งยังได้ตะโกนให้คนมาช่วยห้าม แล้วก็ได้น้องเทคนิคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามวิ่งเข้ามาช่วยแยกทั้ง 2 คน ออกจากกัน

ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในเหตุการณ์แต่ก็ไม่แน่ใจว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร แต่เท่าที่ฟังจากคลิปหลังที่ไม่ได้โพสต์นั้น น่าจะเป็นเรื่องค่าโดยสาร และมีการใช้คำหยาบคายโต้เถียงด่าทอกันไปมา จนนำไปสู่การลงไม้ลงมือ แล้วก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อรถโดยสารประจำทางสีเหลืองคันดังกล่าว ซึ่งเป็นรอยบุบจากการกระแทกของทั้ง 2 ฝ่าย

โดยตนก็ได้ให้คลิปกับทางคนขับรถโดยสารเอาไว้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีหาผู้รับผิดชอบค่าเสียหายแล้ว ซึ่งในส่วนตัวมองว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าเกิดขึ้นบนท้องถนนเลย ขณะที่ในส่วนของน้องเทคนิคนั้นก็ต้องชื่นชมในน้ำใจและความกล้าที่เข้ามาช่วยห้ามปราม ไม่เช่นนั้นก็อาจจะมีเหตุการณ์บานปลายและรุนแรงมากขึ้นกว่านี้

...

นายปรัชญา อมรเวชยกุล อายุ 41 ปี คนขับรถโดยสารประจำทางสายสมุทรสาคร-โลตัสพระราม 2 สีเหลือง เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นทั้งสองคนยืนคุยกันก็นึกว่ารู้จักกัน ไปๆ มาๆ สักพักหนึ่งเขาก็ต่อยกัน พอต่อเสร็จแล้วก็ล้มมาโดนที่รถของตนในช่วงที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่

ทั้งนี้ ตนเองก็ลงไปเพื่อที่จะไปดูรถ และจะบอกว่าให้ถอยห่างออกไปสักหน่อย แล้วสักพักเดียวก็มีคนมาช่วยห้ามเต็มไปหมด โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นตนก็ถามว่า รถบุบใครจะซ่อม แต่ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป ตนจึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน โดยในส่วนตัวนั้น มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่าจะมีปัญหากัน ขณะที่ในด้านของเด็กเทคนิคที่เข้ามาช่วยห้าม ก็ต้องชื่นชมว่าเป็นการกระทำที่ดี

ขณะที่ นายไพโรจน์ วอทอง อายุ 59 ปี คนขับรถแท็กซี่ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทฬ 2552 กทม. ได้เปิดเผยรายละเอียดทางโทรศัพท์ว่า คู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มาส่งผู้โดยสาร และจะเรียกตนให้ไปส่งที่อำเภอบ้านแพ้ว ซึ่งตนก็บอกไปว่า ตนกดมิเตอร์ขอบวกเพิ่ม 40 บาท เพราะขากลับตนต้องตีรถเปล่ากลับมาไม่มีผู้โดยสาร ไม่เหมือนไปส่งลูกค้าในกรุงเทพฯ

จากนั้นคนที่จะโดยสารก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเขาก็ไปเรียกรถคันใหม่แทน ซึ่งก็จบกันไป แต่ที่มีปัญหาคือ คนที่ขับรถจักรยานยนต์มาส่ง ได้ขับรถมาตรงประตูที่ตนนั่งพร้อมถามทำไมมึงถึงไม่ไป ตนบอกไปครับ แต่ขอบวกเพิ่ม 40 บาท เพราะขากลับไม่มีคนออกไปชานเมือง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ให้ของลับแก่ตน และถามอีกว่าทำไมถึงต้องบวกด้วย แล้วก็เรียกตนให้ลงจากรถ ซึ่งตนก็ลงไป เขาก็ด่าอีก ตนก็ด่าตอบ จนกลายเป็นการทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งตนก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารประจำทางนั้น ก็คงต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำด้วย

ร.ต.อ.เลิศชาย ขำพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดีบอกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตามเจ้าของรถจักรยานยนต์มาสอบปากคำหาข้อมูลให้ชัดเจน และพิสูจน์ทราบว่าวันเกิดเหตุใครเป็นคนใช้รถจักรยานยนต์ เพื่อนำไปสู่การหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนที่จะมีการแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

(ชมคลิป คลิกที่นี่