รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ โพสต์ถึงประโยชน์ของกัญชา หลังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับสารกัดจากกัญชาช่วยให้หายจากการติดเชื้อเอชไอวี โดยผู้ป่วยยังควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง...
วันที่ 29 พ.ค. 62 รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ถึงกรณีโลกออนไลน์แชร์ข่าวน้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรคเอดส์ โดยระบุว่า น้ำมันกัญชา ไม่ได้รักษาเอชไอวี สารสกัดจากกัญชาไม่ได้รักษาหรือช่วยลดเชื้อเอชไอวี เพียงแค่ช่วยให้มีชีวิตดีขึ้น ปวดน้อยลง กินอาหารได้มากขึ้น
ก็เลยเอาบทความของคุณหมอจ่าพิชิตมาให้ดูกันละกัน สรุปว่าองค์การอนามัยโลก หรือ WHO นั้น บอกว่าสารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเอชไอวี แค่ 3 อย่างคือ
1. ใช้เพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วย HIV ที่มีอาการอ่อนเพลีย กินข้าวไม่ลง
2. ใช้ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วย HIV ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเยอะแล้วใช้ยาตัวอื่นแล้วไม่เวิร์ก
3.ใช้ในคนไข้ HIV ที่มีอาการปลายประสาทอักเสบ ปลายประสาทเสื่อม โดยใช้ลดอาการปวดเส้นประสาทในผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ผลดี
ดังนั้น ใครที่ป่วยติดเชื้อเอชไอวีอยู่ อย่าทิ้งการรักษานะครับ โดยเฉพาะการกินยาต้านไวรัส ต้องกินต่อเนื่องไม่ให้ขาด ส่วนกัญชานั้น ถ้าจะใช้ ก็ปรึกษาแพทย์ก่อน และใช้เพื่อเสริมการรักษาเท่านั้นครับ
ขณะที่แฟนเพจ Drama-addict ระบุว่า สรรพคุณของกัญชามีเท่านี้ ไม่มีสรรพคุณในการลดจำนวนไวรัส หรือเพิ่มภูมิคุ้มกันแต่ประการใด ส่วนคนที่ติดเชื้อ HIV จนถึงระยะสุดท้ายคือเป็นเอดส์ อันนั้นหายได้ด้วยยาต้านไวรัส ไม่ใช่กัญชา
...
ใครที่ติดเชื้ออยู่แล้วสนใจอยากใช้ ต้องระวัง ต้องปรึกษาแพทย์ที่รักษาโดยละเอียด เพราะสรรพคุณที่ว่ามาข้างบนนั้น หากใช้กัญชาแบบตรงๆ เลย จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการเสพกัญชาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เขากังวลกันคือในแง่ของสมองและความจำ มีงานวิจัยพบว่าในกลุ่มคนที่ติดเชื้อ HIV และใช้กัญชาร่วมด้วย จะมีผลข้างเคียงต่อสมองและความจำได้สูง
ดังนั้นในแง่ของการใช้กัญชากับ HIV ที่ WHO รับรอง จะเป็นการใช้ในรูปของ Dronabinol ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันที่สังเคราะห์จากกัญชา และใช้ในโดสไม่สูงครับ ไม่ใช่หยอดน้ำมันกัญชา หรือดูดปุ๊นเอานะ.
(ภาพและข้อมูลจาก แฟนเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง By อาจารย์เจษฎ์, Drama-addict)