ยืนยันคนจีนยังชอบผลไม้เมืองไทย มังคุด ทุเรียน ลำไย มาวิน เผยที่ราคาตกต่ำเพราะติดขัดเรื่องตู้คอนเทนเนอร์แบบห้องเย็น และในขั้นตอนการขนส่ง

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ พบว่า ราคามังคุดดิ่งลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 20-30 บาท และเป็นมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างจากช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ราคามังคุดดีดตัวสูงขึ้นในช่วงเปิดฤดูกาลผลิต แตะที่กิโลกรัมละเกือบ 100 บาท ซึ่งตอนนี้ ราคามังคุดผิวมันลาย ดีดตัวขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 70 บาทแล้ว เนื่องจากชาวสวนหยุดการเก็บผลผลิตชั่วคราว

นายกิตติ แซ่จิน อายุ 36 ปี เจ้าของล้งกิตติ ในพื้นที่ ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ที่เปิดรับซื้อมังคุด ชาวจีนจากมลฑลกวางเจา ประเทศจีน ที่เดินทางมาเช่าสถานที่เปิดล้งรับซื้อผลไม้ร่วมกับเพื่อน ได้ให้ข้อมูลว่า คนจีนชอบและนิยมบริโภคผลไม้ไทย โดยเฉพาะมังคุด, ทุเรียน และลำไย

โดยมังคุดกับทุเรียน ต้องรับประทานร่วมกันตามความเชื่อของคนจีน ว่าเมื่อทานทุเรียนแล้ว ต้องตามต่อด้วยมังคุด ส่วนลำไย ต้องเป็นลำไยอบแห้ง เพราะจะน้ำไปตุ๋นร่วมกับเห็ดเป็นยาบำรุงสุขภาพ โดยผลไม้จากจันทบุรี ได้ส่งเข้าไปยังประเทศจีน โดยปลายทางส่วนใหญ่อยู่ที่ มณฑลกวางเจา คุนหมิง ไท่หยวน ปักกิ่ง เป็นต้น

...

ส่วนเรื่องมังคุด และทุเรียนที่ราคาตกต่ำลง เนื่องมาจากตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นห้องเย็นเคลื่อนที่ บรรทุกผลไม้จากจันทบุรี เดินทางออกจากด่านชายแดน บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ผ่านเข้าประเทศกัมพูชา และเวียดนาม ไปจนถึงชายแดนประเทศจีน

ขณะที่ อีกเส้นทางผ่านเข้าทางประเทศลาว ไปยังชายแดนประเทศจีน โดยตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นห้องเย็นมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนผลไม้ต่อความต้องการบริโภคผลไม้ไทย ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์จะต้องรอลำเลียงผลไม้ออกจากตู้ จะต้องใช้ขั้นตอนถึง 2 วัน และรอกระบวนการดำเนินงานอีก 7 วัน

ทั้งนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ จึงจะสามารถเดินทางกลับมายังล้งผลไม้ได้ ประกอบกับเป็นช่วงที่ผลไม้ของประเทศลาว คือ กล้วยหอม และ แตงโม กำลังให้ผลผลิต ความจำเป็นที่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นห้องเย็นเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้ในที่สุด

นายกิตติ กล่าวอีกว่า ตนเองมาซื้อผลไม้ของประเทศไทย 6 ปีแล้ว และก่อนมาได้ศึกษาภาษาไทยจนแตกฉานก่อนจะเดินทางมา ส่วนเรื่องแรงงาน ตนนิยมแรงงานคนไทยที่มีความรับผิดชอบและใส่ใจ มากกว่าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

โดยที่ผ่านมา เวลาชาวสวนนำมังคุดมาขายให้ที่ล้ง ได้แนะนำเวลาเก็บผลผลิต ให้ดูเข้าสายเลือด หรือผิวสองสีจริงๆ เมื่อนำมาขายจะทำให้มีราคาดี เนื่องจากทางล้ง จะคัดมังคุดที่ส่งออกสองสีหรือสายเลือด เพื่อการส่งออกไปยังประเทศจีน

ส่วนเรื่องการบรรจุการหีบห่อในการขนส่ง จะทำตะกร้าที่บรรจุมังคุดน้ำหนัก 7 กิโลกรัม รวมตะกร้าด้วยเป็น 8 กิโลกรัม โดยจะมีการแพ็กอย่างแน่นหนา พาเลต ละ 96 ตะกร้า 1 ตู้คอนเทนเนอร์จะบรรจุได้จำนวน 25 พาเลต หรือจำนวน 2,400 ตะกร้า