ครอบครัวพลทหารหนองคายถูกขวดปากฉลามแทงเสียชีวิต ระหว่างระงับเหตุวัยรุ่นวิวาท ร่ำไห้รับศพกลับบ้าน ลั่นไม่อภัยให้ผู้ก่อเหตุ ขณะที่กองทัพสั่งดูแลเต็มที่ให้สวัสดิการตามสิทธิที่พึงได้ ด้านผู้ต้องหาฝากขังเรือนจำแล้วยังไม่มีญาติขอประกันตัว...

จากกรณีที่ พลทหารพลนิกร ยศมาร อายุ 22 ปี ทหาร ป.13 พัน.3 สังกัดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดหนองคาย (กกล.รส.จ.หนองคาย) ถูกนายนพดล อายุ 25 ปี ใช้ขวดปากฉลามแทงใบหน้าและลำคอ เสียชีวิต ขณะเข้าระงับเหตุทะเลาวิวาทในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้เก็บศพไว้ที่โรงเย็นโรงพยาบาลหนองคาย ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 16 เม.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ ยศมาร อายุ 53 ปี และ นางสวลี สรรพอาสา อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นบิดามารดา พร้อมด้วยพี่สาว และญาติพี่น้อง ได้เดินทางมารับศพพลทหารพลนิกร โดยพันตรีเทียนชัย นาบุดดา รองเสนาธิการ กกล.รส.จ.หนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ทหาร กกล. ผลัดเปลี่ยนชุดทหาร บรรจุศพลงหีบศพ ธงชาติคลุมหีบศพ ญาติได้เรียกวิญญาณพลทหารพลนิกรให้ทราบว่าจะพากลับบ้านแล้ว

...

จากนั้นตั้งขบวนรับศพขึ้นรถทหารอย่างสมเกียรติ เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลหนองคายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าบึงแก้ว บ้านดอนบก ต.รัตนวาปี โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 15.00 น. และฌาปนกิจในวันที่ 17 เม.ย.62 ซึ่ง พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาค 2 จะเดินทางมาร่วมพิธีด้วยตนเอง

นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน นางสาวอังคณา เป็นพี่สาว ส่วนพลทหารพลนิกร เป็นลูกชายคนเล็ก ตนทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี เมื่อลูกชายได้เข้าเกณฑ์ทหารและเพิ่งติดทหารได้เพียง 5 เดือน ก็มาเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ตนทำใจไม่ได้ ทันทีที่ได้ทราบข่าวถึงกับช็อก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก ก่อนที่ลูกจะติดทหารได้ทำงานเป็นช่างเชื่อม บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ชลบุรี และกำลังเรียนต่อชั้นมัธยมไปด้วย เพราะลูกจบเพียงชั้น ป.6 ไม่ได้เรียนต่อทันทีเพราะครอบครัวยากจน

ลูกชายนิสัยดี จิตใจดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น โดยลูกชายบอกว่าหลังจากปลดประจำการทหารแล้ว จะเรียนต่อให้จบแล้วจะหางานดีๆ ทำ พ่อก็ได้ติดต่องานไว้ให้ลูกชายบ้างแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าผู้ต้องหาจะอ้างว่าทำไปเพราะเมาขาดสติ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ จะมาอ้างว่าไม่รู้ตัว แล้วทำให้คนอื่นตายไม่ได้ อยากให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าญาติของผู้ต้องหาจะไปกราบศพก็ยินดี แต่จะไม่ยกโทษให้ผู้ต้องหา

เช่นเดียวกับ น.ส.อังคณา พี่สาว บอกว่า ตนทำงานที่ จ.ตราด ก่อนสงกรานต์น้องชายยังโทรศัพท์คุยกันว่าอยากให้พี่สาวกลับมาหาที่หนองคาย เพราะน้องไม่ได้หยุดสงกรานต์ ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้อง และไม่ให้อภัยผู้ต้องหาโดยเด็ดขาด

ด้านร้อยตรีวาสุกรี สีเลา หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า พลทหารพลนิกร เป็นคนดี เรียบร้อย เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ชอบช่วยเหลือเพื่อนและผู้อื่นอยู่เสมอ ในวันเกิดเหตุตนเป็นผู้นำคณะไประงับเหตุ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ในส่วนของการช่วยเหลือนั้น ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการจัดงานศพทั้งหมด พร้อมจัดงานให้สมเกียรติตามแบบธรรมเนียมทหาร, ทหารทำประกันชีวิตกับหน่วยไว้ อยู่ระหว่างการสรุปพฤติกรรมการเสียชีวิต

โดยค่าประกันอยู่ที่ 200,000 บาท หรือมากกว่า ค่าสินไหมทดแทน ทหารบก 28,000 บาท สวัสดิการช่วยเหลือโดยหน่วยทหารในอุดรธานี (ร.13 และหน่วยรอง) รอการส่งยอดอีกครั้ง สวัสดิการช่วยเหลือ โดย ป.3 และหน่วยรอง อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนการปูนบำเหน็จ หน่วยประสานผ่าน มทบ.24 จะช่วยดำเนินการถ้าเข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบสามารถทำได้ แต่อยู่ระหว่างการประสานงาน

สำหรับพลทหารพลนิกร ยศมาร ชื่อเล่น จ๊อบ อายุ 22 ปี พ่อแม่หย่าร้างตั้งแต่เล็ก มีนางมาลี สุดชา ผู้เป็นยาย เลี้ยงดูมาตั้งแต่ 2 ขวบ เมื่อถึงกำหนดเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ได้รับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ ด้วยการจับสลาก รุ่นปี 2561 ผลัดที่ 2 สังกัดหน่วย ป.3 พัน 13 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.61 และเข้าปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ในนามหน่วย ร้อย.รส.ป.3 พัน 13 จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.62 จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันที่ 14 เม.ย. 62 ได้ออกลาดตระเวนและระงับเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ที่ศูนย์การค้าเอเชียพีค จนถูก นายนพดล ใช้ขวดปากฉลามแทงใบหน้าและลำคอเสียชีวิต

ขณะเดียวกัน ด.ต.ประเสริฐ รอดชมพู ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองหนองคาย ซึ่งได้เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทในวันเกิดเหตุ ถูกชก ได้รับบาดเจ็บบริเวณดั้งจมูก คาง และนิ้วถูกของมีคมบาดเย็บ 1 แผล เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเข้าไประงับเหตุหลังจากพลทหารพลนิกรถูกทำร้ายแล้ว โดยนายนพดล ผู้ก่อเหตุ พูดจาท้าทายตำรวจทหารที่เข้าระงับเหตุ บอกว่า ทหารเกณฑ์อย่ามาแสดง ตำรวจมาก็จะชก แล้วก็ชกตำรวจจริงๆ ห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง 

ด้าน พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวถึงรูปคดีว่า ขณะนี้ได้นำตัวนายนพดล ผู้ต้องหา ฝากขังที่เรือนจำจังหวัดหนองคายเรียบร้อยแล้ว ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอประกันตัว นายนพดลอยู่ในอาการเครียด ซึ่งทางตำรวจได้ทำสำนวนอย่างรัดกุมตามกฎหมาย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง