ปีนี้นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์โลก เมื่อนครรัฐวาติกัน ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้จัดประชุมผู้นำศาสนาในระดับสากลเกี่ยวกับ “บทบาทของศาสนาและการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ” ขึ้น ที่นครรัฐวาติกัน

ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่าง พุทธศาสนา และ คริสต์ศาสนา ที่มีมาแต่อดีตอันยาวนาน ตั้งแต่ครั้งที่ สมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ซึ่งต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็น สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เดินทางไปเยือน สำนักวาติกัน ตามคำอาราธนาของ สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุของค์ที่ 226 แห่งคริสตจักรคาทอลิก เป็นประธานในการจัดประชุมผู้นำศาสนาในระดับสากล ปี 2562 ที่นครวาติกัน โดยมี พระสงฆ์ไทย ได้รับเชิญเป็นผู้แทนศาสนาพุทธของโลก.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุของค์ที่ 226 แห่งคริสตจักรคาทอลิก เป็นประธานในการจัดประชุมผู้นำศาสนาในระดับสากล ปี 2562 ที่นครวาติกัน โดยมี พระสงฆ์ไทย ได้รับเชิญเป็นผู้แทนศาสนาพุทธของโลก.

...

ต่อมาเมื่อปี 2559 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระสันตะปาปาองค์ที่ 226 ได้ติดต่อขอความร่วมมือจากคณะสงฆ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ช่วยปริวรรต คัมภีร์พระมาลัย ฉบับภาษาบาลีและภาษาไทยที่จารึกด้วยอักษรขอมโบราณให้เป็นอักษรไทยและอักษรโรมัน โดย สำนักวาติกัน จะนำไปแปลต่ออีก 7 ภาษา

สำหรับคัมภีร์มาลัยนี้เป็นของที่ระลึกที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ถวาย สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 11 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป เมื่อปี ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477)

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ในการประชุมผู้นำศาสนาระดับสากล เกี่ยวกับ “บทบาทของศาสนาและการพัฒนาที่ยั่งยืน”.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ในการประชุมผู้นำศาสนาระดับสากล เกี่ยวกับ “บทบาทของศาสนาและการพัฒนาที่ยั่งยืน”.

คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใช้เวลา 2 ปี แปล พระคัมภีร์มาลัยอักษรขอม จึงเสร็จ และ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ได้นำไปถวายแด่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อกลางปี 2561

ปัจจุบัน พระคัมภีร์มาลัยอักษรขอม ที่พระสงฆ์ไทยแปลไว้ ได้มีการแปลอีก 7 ภาษา รวมภาษาไทยเป็น 8 ภาษา และจะถูกนำไปเปิดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกัน ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ชมครั้งแรก กลางปีนี้

ในปีนี้ สมณกระทรวงบริการส่งเสริมการพัฒนามนุษย์แบบองค์รวม นครรัฐวาติกัน ในอาณัติของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก จึงได้เชิญ ประเทศไทย เป็น ผู้แทนศาสนาพุทธของโลก ไปร่วมประชุม ผู้นำศาสนาในระดับสากล ด้วย

สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เมื่อครั้งอาราธนา สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ไปเยือนนครวาติกัน เริ่มต้นความสัมพันธ์ พุทธศาสนา และ คริสต์
สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เมื่อครั้งอาราธนา สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ไปเยือนนครวาติกัน เริ่มต้นความสัมพันธ์ พุทธศาสนา และ คริสต์

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีบัญชามอบหมายให้ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นผู้แทนเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำศาสนาในระดับสากลเกี่ยวกับบทบาทของศาสนา และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 7-9 มี.ค.2562

โดยมีพระสงฆ์ร่วมคณะประกอบด้วย พระราชรัตนสุนทร, พระราชปริยัติมุนี (เทียบ) ผู้แทน พระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) และ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกร วัดพระเชตุพนฯ กรรมการมูลนิธิสิริวัฒนภักดี และ กก.ผอ.ใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และคณะ ถวายพระคัมภีร์มาลัยอักษรขอม ที่พระสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) แปลเสร็จ แด่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อปี 2561 เพื่อนำไปแปลอีก 7 ภาษา.
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และคณะ ถวายพระคัมภีร์มาลัยอักษรขอม ที่พระสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) แปลเสร็จ แด่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อปี 2561 เพื่อนำไปแปลอีก 7 ภาษา.

การจัดประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ได้นำเสนอทัศนะ และอภิปรายประเด็นต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบที่กำหนด 5 P คือ People Planet Prosperity Peace และ Partnership ตามความเชื่อ ศรัทธา

จากนั้นนำเนื้อหาการประชุมไปสู่บทสรุปจากทัศนะที่มีการแลกเปลี่ยน ความแตกต่างแต่สร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) ตามที่ องค์การ สหประชาชาติ ได้กำหนดไว้

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงต้อนรับ พระพรหมบัณฑิต เป็น ผู้แทนศาสนาพุทธของโลก และผู้นำศาสนาต่างๆ.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงต้อนรับ พระพรหมบัณฑิต เป็น ผู้แทนศาสนาพุทธของโลก และผู้นำศาสนาต่างๆ.

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ความตอนหนึ่งว่า...

“ปัญหาของการพัฒนาทุกวันนี้เกิดมาจากความคิดที่คับแคบว่า การพัฒนาหมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic growth)เท่านั้น ดังนั้น ทั่วโลกจึงวัดความเจริญเติบโตด้วย GNP คือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ซึ่งวัดเฉพาะการเจริญเติบโตทางวัตถุ ซึ่งมักจะเกิดจากการย่ำยีธรรมชาติแวดล้อมและการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงต้อนรับผู้นำศาสนาต่างๆ จากทั่วโลก ที่ไปร่วมประชุมอย่างใกล้ชิด.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงต้อนรับผู้นำศาสนาต่างๆ จากทั่วโลก ที่ไปร่วมประชุมอย่างใกล้ชิด.

ขณะที่ พระพรหมบัณฑิต ได้แสดงทัศนะถึงแนวทางปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนว่า...

“การพัฒนาที่แท้ต้องเป็นการพัฒนาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมเป้าหมายทั้ง 3 ด้าน คือการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและด้านสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันโดยไม่แยกจากกัน ซึ่งในประเทศไทยได้มีการนำเสนอชัดเจนเป็นรูปธรรมด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย”

คณะสงฆ์ไทย ในฐานะผู้แทนศาสนาพุทธของโลก เข้าร่วมประชุม ผู้นำศาสนาระดับสากลจากทั่วโลกภายในโบสถ์ ที่นครวาติกัน.
คณะสงฆ์ไทย ในฐานะผู้แทนศาสนาพุทธของโลก เข้าร่วมประชุม ผู้นำศาสนาระดับสากลจากทั่วโลกภายในโบสถ์ ที่นครวาติกัน.

พร้อมทั้งหยิบยกประเด็นหุ้นส่วนสามประสานคือ “บวร” บ้าน วัด ราชการ ที่เป็นวิถีหนึ่งของพุทธศาสนาในประเทศไทย

โดยได้ยกตัวอย่างความสำเร็จของการพัฒนาแบบองค์รวมตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ ย่านกะดีจีน ซึ่งรวมชุมชน 6 ชุมชน มี ชุมชนวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นต้นแบบ ประกอบด้วย 3 ศาสนา 4 ความเชื่อ ได้แก่ พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และอิสลาม แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี

พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ คณะสงฆ์ไทย ถ่ายภาพกับ บาทหลวง ระหว่างการเข้าร่วมประชุมผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ที่นครวาติกัน.
พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ คณะสงฆ์ไทย ถ่ายภาพกับ บาทหลวง ระหว่างการเข้าร่วมประชุมผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ที่นครวาติกัน.

เป็นการพัฒนาใช้นโยบายสามประสาน คือ บ้าน (ภาคธุรกิจภาคเอกชน) + วัด (โบสถ์และมัสยิด) + ราชการ (โรงเรียนและส่วนราชการอื่นๆ) ที่ทำงานร่วมกันอย่างดีจนเป็นแบบอย่างของสังคมที่เข้มแข็งในปัจจุบัน

ที่ประชุมผู้นำศาสนาต่างๆทั่วโลก ต่างชื่นชมแนวทางปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย ที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข.

คณะสงฆ์ไทย ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก บริเวณหน้าโบสถ์สถานที่ประชุมผู้นำศาสนาจากทั่วโลก นับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของโลกอีกครั้งหนึ่ง.
คณะสงฆ์ไทย ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก บริเวณหน้าโบสถ์สถานที่ประชุมผู้นำศาสนาจากทั่วโลก นับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของโลกอีกครั้งหนึ่ง.

ทีมข่าวภูมิภาค