ตำรวจนำตัวคนร้ายก่อเหตุใช้แก๊สพยายามตัดตู้เอทีเอ็มทำแผน หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันหนัก สารภาพมีภาระหนี้สิน อีกทั้งเมียท้องแก่ใกล้คลอด
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ไฟจากถังแก๊สพยายามตัดตู้เอทีเอ็มเพื่อหวังได้เงินสดภายในตู้ โดยเหตุเกิดริมถนนสายพัทลุง-นาโหนด ห่างจากถนนสายเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้นประมาณ 50 เมตร บริเวณหน้าบ้านพักของ นางพรรณี แสงแก้ว อายุ 59 ปี เจ้าของร้านค้ารายใหญ่ภายในหมู่บ้าน พื้นที่ อ.เมืองพัทลุง แต่คนภายในบ้านได้ยินเสียงดังจากการก่อเหตุ ทำให้กลุ่มคนร้ายที่มีรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะรีบขับขี่หลบหนีไป เหตุเกิดในเวลาประมาณ 04.10 น. วันที่ 16 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 มีนาคม 2562 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศพล พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ร่วมการแถลงข่าวการมอบตัวของ นายเกียรติศักดิ์ ไชยบุญแก้ว อายุ 26 ปี ชาว ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสภาพเก่า ไม่มีทะเบียน ดัดแปลงสำหรับติดตั้งถังแก๊สในการก่อคดี ซึ่งถูกจอดทิ้งไว้ในสวนยางพาราห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร และเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดถังออกซิเจน หมวกไหมพรหม คีมที่ใช้ในการงัดแงะ ลังไม้ เสื้อผ้า หัวต่อถังออกซิเจน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ได้ที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ พร้อมสอบขยายผลทราบว่าของกลางทั้งหมดเป็นของ นายเกียรติศักดิ์ จึงกดดันจนผู้ก่อเหตุตัดสินใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียวและไม่ใช่มืออาชีพ แต่มีการวางแผนและเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งการดัดแปลงสภาพรถ การเตรียมอุปกรณ์ อีกทั้งเชื่อว่าการโจรกรรมเงินในตู้เอทีเอ็มจะได้เงินอย่างแน่นอน แต่มีชาวบ้านมาเห็นเสียก่อนจึงไม่สามารถก่อเหตุได้สำเร็จ
...
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ต้องการเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวเนื่องจากภรรยาท้องแก่ใกล้คลอด และยังมีภาระหนี้สินที่ต้องจ่าย จึงตัดสินใจก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาพยายามลักทรัพย์ในยามวิกาล และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ต่อไป.