มูลนิธิสืบฯ ออกแถลงการณ์หลังศาลตัดสิน "คดีเสือดำ" จำคุก "เปรมชัย" 16 เดือน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

แฟนเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร แถลงการณ์ฉบับที่ 4 กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง พร้อมทั้งอาวุธปืน เครื่องกระสุน และปลอกกระสุนปืน 

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 61 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ สรุปสำนวนสั่งฟ้องในข้อหาสำคัญ ทั้งการร่วมกันล่าสัตว์ป่า และร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าอย่างครบถ้วน โดยพนักงานอัยการได้สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 61 ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.61 จนถึงวันที่ 26 ธ.ค.61 และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (19 มี.ค.62)

ถึงแม้ผลคำพิพากษาอาจเป็นหรือไม่เป็นไปดังที่สาธารณชนคาดหวัง แต่เชื่อว่าเหตุการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สังคมไทยได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในแง่กฎหมายที่หลายสื่อต่างออกมาให้ข้อมูลการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีให้สาธารณชนรับทราบ และทำความเข้าใจถึงขั้นตอนตามกฎหมายในแต่ละช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระแสอารมณ์ อยู่เหนือข้อมูลและข้อเท็จจริง หลายสื่อกระตุ้นเตือนสังคมด้วยการนำเสนอเรื่องเสือดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

...

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้สังคมลืมเลือนถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดกับสัตว์ทั้งสามชนิด และก่อให้เกิดกระแสที่มีผลสะเทือนไม่ยอมรับถึงการเข้าป่าล่าสัตว์เพียงเพื่อความสนุก สังคมไทยได้รู้จักงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่ามากขึ้น และเห็นถึงความก้าวหน้าของงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีนี้ รวมไปถึงจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีอื่นๆ อีกด้วย และมีกลุ่มมากมายจากภาคประชาชนคนธรรมดาที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เสือดำ

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเร่งรัดคดีนี้ ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมจำเลยทั้งสี่ รวมถึงภาคประชาชนที่คอยเฝ้าติดตามไม่ให้คดีนี้เงียบหาย จนผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมายเช่นประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม

โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคดีนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญและเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย ขอให้สังคมร่วมกันตรวจสอบและพร้อมที่จะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับผู้ไม่เคารพกฎหมาย และร่วมกันติดตามคดีนี้จนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป 

ขอแสดงความนับถือ
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
วันที่ 19 มี.ค. 62

(อ่านต้นฉบับ คลิกที่นี่)