ญาติร้องคนขับปอร์เช่ชน 2 สาวเพื่อนรักขาขาด อ้างมีพยานเห็นคู่กรณีดื่มเหล้าก่อนซิ่งรถ หลังเกิดเหตุมีคนมาพาหนี เผยโดนคนขู่ห้ามพูดเรื่องเมา ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินสักบาท...
จากกรณีอุบัติเหตุ รถหรูปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน เอส ราคาเกือบ 10 ล้าน พุ่งชนรถจักรยานยนต์สภาพพังยับ 2 สาวขาขาดทั้งคู่ ส่งผลให้ น.ส.มีนารัตน์ หรือ ไตเติ้ล ฉิมน้อย อายุ 22 ปี เสียชีวิต ส่วน น.ส.กิตติยา หรือ โอ๋ เที่ยงธรรม อายุ 22 ปี ตั้งท้องอ่อนๆ บาดเจ็บสาหัส และเสียลูกในท้องไปจากเหตุการณ์นี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 16 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.หนองค้างพลู น.ส.ณัฐธินี เลื่อนรุ่ง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมญาติ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณพสกล ทองแสง รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองค้างพลู เจ้าของคดี เพื่อขอทราบความคืบหน้าด้านคดี
น.ส.ณัฐธินี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.กิตติยา ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ125 สีเขียวอ่อน ทะเบียน ฬกอ 618 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านพักภายในซอยเพชรเกษม 114 เพื่อออกไปรับ น.ส.มีนารัตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านอาหารย่านถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ
ขณะกำลังขี่รถย้อนศรบนฟุตปาทมุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี เพื่อเข้าซอยลัดไปส่ง น.ส.มีนารัตน์ ในซอยเพชรเกษม 110 ขณะที่ขี่ผ่านร้านรับซื้อของเก่าปากซอยพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 5 ไปไม่ไกล ได้มีรถเก๋งปอร์เช่ เคย์แมน เอส ทะเบียน 6 กญ 9579 กรุงเทพมหานคร ขับมาด้วยความเร็วสูงข้ามสะพานข้ามคลองย่อย แล้วเหินเสียหลักขึ้นฟุตปาทมาชนรถจักรยานยนต์ของน้องสาวตนอย่างแรง
...
จนร่างของ น.ส.มีนารัตน์ กระเด็นไปข้ามรั้วเข้าไปอยู่ในร้านขายของเก่าห่างจากจุดที่ชนประมาณ 20 เมตร สภาพศพขาซ้ายขาด แขนหัก ศีรษะแตก เสียชีวิตคาที่ ส่วน น.ส.กิตติยา ก็กระเด็นไปอีกทางห่างไปประมาณ 20 เมตรเช่นเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาซ้ายขาด ม้ามฉีก ตับฉีก สะโพกแตก เลือดออกในช่องท้อง แขนด้านซ้ายรอตัด ส่วนลูกในท้องอายุ 3 เดือน เสียชีวิตในท้อง รอผ่าตัดเอาศพออกมา ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลศิริราช และในที่เกิดเหตุรถปอร์เช่คันที่ก่อเหตุยังเสียหลักไปชนรถซาเล้งและรถตู้ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน
น.ส.ณัฐธินี กล่าวต่อไปว่า ภายหลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีได้ถ่ายคลิปและไลฟ์สดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ เป็นภาพที่คนขับรถปอร์เช่ คลานออกมาจากในรถในสภาพเมาแล้วก็มีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำ วนมารับขึ้นรถไปจอดดูเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วก็หลบหนีไป ในที่เกิดเหตุมีพยานหลายคนเห็นว่าคนขับรถปอร์เช่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปไม่ไกล
หลังจากผับปิดได้เอารถออกมาวิ่งโชว์ด้วยความเร็วสูงประมาณ 3 รอบ ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงคอสะพานข้ามคลองที่รถทุกคันต้องระวัง หากใครไม่ชินทางรถก็จะเหินเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หลังเกิดเรื่องตนพร้อมญาติไปขอกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหาร แต่ก็ได้รับคำตอบว่าลบภาพออกไปแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่ยังได้ภาพจากกล้องใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุมาอีกหลายตัว
ตนเกรงว่าคดีนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นคนมีเงิน จึงใช้โลกโซเชียลช่วย จนกระทั่งทราบว่า ภรรยาของคนขับรถหรูได้ติดต่อมาหาร้อยเวรเจ้าของคดี บอกว่าจะให้เงิน 5 หมื่นบาทเป็นค่าทำศพ แต่อย่าพูดเรื่องเมา ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินเลยสักบาท ส่วนน้องสาวตนไม่ได้พูดถึง ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ทำไมเห็นคุณค่าของคนมีค่าแค่เงิน 5 หมื่น น.ส.มีนารัตน์ ยังต้องเลี้ยงดูแล ลูกชายวัย 2 ขวบอีกด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ณพสกล กล่าวว่า ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของและผู้ครอบครองรถคือ นายสมเกียรติ ภักดีนอก อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเต็นท์ขายรถ ขณะนี้ได้รับบาดเจ็บขาหักทั้ง 2 ข้าง นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 3 ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
เนื่องจาก นายสมเกียรติ ยังไม่พร้อมให้การ ซึ่งต้องรอผลตรวจเลือดจากทางโรงพยาบาลว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และทางภรรยาได้ติดต่อมาว่าจะช่วยเหลือค่าทำศพคนตาย 5 หมื่นบาทพร้อมพวงหรีด ส่วนค่าเสียหายอย่างอื่นรอให้ออกจากโรงพยาบาลจะมาคุยกับญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ศพของ น.ส.มีนารัตน์ หรือ ไตเติ้ล ถึงวัดไผ่เลี้ยงแล้ว โดยจะมีพิธีรดน้ำศพ เวลา 17.00 น. ซึ่งจะรดผ่านสายสิญจน์และรูป สวดอภิธรรม เวลา 19.00 น. ณ วัดไผ่เลี้ยง เพชรเกษม 110 (ศาลา 1)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง