ด้วยการเข้าออกประเทศไทยได้ง่ายๆ ในอดีตไม่ว่าจะเดินทางหรือยานพาหนะ ชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาเป็นขอทานในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย แลกกับค่าใช้จ่ายให้กับ “นายหน้า”
และเดิมทีมีการนำเด็กมาเป็นเครื่องมือขอทาน และบางส่วนนำเด็กมาขายดอกไม้พวงมาลัยตามสถานบันเทิง ร้านอาหาร ซึ่งเป็นรายได้ที่ดี เพราะคนไทยเป็นคนใจดี ชอบทำบุญทำทาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ
คนไทยเห็นใจคนอื่นเสมอ
“ขอทานสะพานลอย” นับวันยิ่งสร้างปัญหาใหญ่ในเมืองไทย คนต่างด้าวลักลอบหนีตั้งตัวเป็นแก๊งขอทานในแหล่งท่องเที่ยว จน
นักท่องเที่ยวรับไม่ได้ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญมีต่างด้าวเดินเร่ขอทานแทบทุกแห่ง
แต่ที่น่าสนใจการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีแก๊งขอทานที่เป็นคนจีนเข้ามารวมกลุ่มตั้งตัวเป็นแก๊งขอทานตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง และทำเป็นรูปแบบขบวนการ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สืบสวนจนทราบว่า กลุ่มแก๊งคนพิการชาวจีนที่เข้ามารวมตัวเป็นคนขอทาน เข้ามาเปิดห้องพักที่โรงแรมย่านสุทธิสาร
ช่วงเช้าจะแยกย้ายกันไปขอทานตามสถานที่ต่างๆ
ช่วงเย็นจะกลับเข้ามายังโรงแรมที่พัก
มีคนนำเหรียญที่ได้จากการขอทานไปแลกตามร้านสะดวกซื้อ แล้วนำเงินมาแบ่งกันที่โรงแรม
ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิด 6 ราย คือ นางสาวลูไควเนียง อายุ 27 ปี นางสาวควินเจียงลิน อายุ 21 ปี นายหวังไลโบ อายุ 30 ปี นายเหลาซิน อายุ 31 ปี นายควินดาวยู อายุ 46 ปี นายเรนฮีเฉิง อายุ 29 ปี
ทั้งหมดเป็นคนจีน
จับกุมได้ที่บริเวณสะพานลอยหน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต บริเวณสะพานลอยหน้าห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า และบริเวณทางเท้าใกล้สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ พร้อมกระป๋อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง
...
ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ทำการขอทาน (ตามมาตรา 13 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ
เป็นอีกปัญหาที่นับวันจะเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทย ด้วยช่องโหว่ของกฎหมาย และนิสัยส่วนตัวของคนไทยที่มองข้ามปัญหาเล็กๆ ไม่นานขยายจนเป็นปัญหาใหญ่ติดตามมา
ปล่อยจนสุดท้ายแก้ไขไม่ได้.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th