อธิบดีกรมประมง แจงข่าว "หอยตาวัวฆ่าคนตาย" เป็นข่าวลวง ไม่มีจริง ยันหอยตาวัวไม่มีพิษ รับประทานได้ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เช็กข้อมูลก่อนแชร์...

จากกรณีเว็บไซต์ Gmmwork ได้เผยแพร่ข่าวหญิงสาวเสียชีวิตริมหาดภูเก็ต โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่กรมประมงให้ข่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากนอนทับหอยตาวัว ซึ่งเป็นหอยมีพิษ ทำให้เวลาต่อมามีคนแชร์ข่าวดังกล่าวจำนวนมากนั้น

ล่าสุด วันที่ 24 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทางกรมประมงไม่มีเจ้าที่ท่านใดให้ข่าวกับทางเว็บไซต์ดังกล่าว และยืนยันว่าภาพหอยตาวัวเป็นหอยไม่มีพิษ สามารถรับประทานได้ 

ส่วนกรณีภาพหญิงสาวที่เสียชีวิตริมหาดนั้น ทางกรมประมงได้สอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ศูนย์กู้ชีพนเรนทร มูลนิธิกุศลธรรม ฯลฯ ยังไม่พบรายงานว่าวันที่ 22 ธ.ค.61 มีผู้หญิงเสียชีวิตริมหาดตามที่ข่าวกล่าวอ้างถึงแต่อย่างใด อีกทั้งจังหวัดภูเก็ตจัดเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงได้มีการจัดเตรียมพนักงานไลฟ์การ์ดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนริมหาด ดังนั้นหากพบมีการเสียชีวิตบริเวณหาดจริง หน่วยงานดังกล่าวนี้จะต้องทราบเรื่องก่อนอย่างแน่นอน

จากการตรวจสอบพบว่า ภาพหอยที่นำมาประกอบข่าว คาดว่าเป็นการนำภาพหอยที่พบในพื้นที่ อ.ละแม จ.ชุมพร มีชื่อสามัญเรียกว่า "หอยวงเดือน" "หอยตาวัว" (Neverita didyma) อยู่ในวงศ์หอยตะกาย Naticidae พบได้ทั่วไปในทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย โดยอาศัยฝังตัวในพื้นทะเลในเขตน้ำขึ้นลงบริเวณหาดทราย หรือทรายปนโคลน ไม่มีพิษกับสัตว์อื่นๆ หรือคน เป็นหอยฝาเดียวที่มีรูปร่างค่อนไปทางกลม เปลือกค่อนข้างหนา มีเนื้อมาก ปัจจุบันนิยมกินกันในตลาดอาหารทะเลที่ภูเก็ต

...

ส่วนหอยตาวัว ซึ่งเป็นที่รู้จักทางอนุกรมวิธาน โดยทั่วไปจะหมายถึงหอยในวงศ์ Turbinidae เป็นหอยฝาเดียวที่กินสาหร่ายเป็นอาหาร และไม่มีพิษเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามชื่อสามัญของหอยอาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น

อธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมประมงขอยืนยันว่าข่าวที่เว็บไซต์ Gmmwork เผยแพร่ว่า หอยตาวัว ฆ่าคนตายไม่เป็นความจริง อีกทั้งเจ้าหน้าที่กรมประมงไม่มีส่วนรู้เห็นหรือให้ข่าวดังกล่าวนี้ พร้อมได้เตรียมดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายกับเว็บไซต์ดังกล่าวรวมทั้งบุคคลหรือสำนักข่าวใดๆ ที่มีการนำข้อมูลไปเผยแพร่หรือแชร์ต่อ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อกรมประมงและส่งผลทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด พร้อมเตือนพี่น้องประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนจะแชร์หรือส่งข่าวต่างๆ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง