ตั้งศูนย์วิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ จี้ออกกฎหมายใหม่-ถึงแหล่งทุนง่าย

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า วันที่ 1 พ.ย.นี้ ตนและสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จะนำผู้แทนวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ตอัพ ประมาณ 400 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไข พัฒนาและสนับสนุนใน 7 ประเด็นสำคัญที่เป็นข้อติดขัดของสตาร์ตอัพ คือ 1.ภาครัฐควรส่งเสริมให้มีการจัดตั้งและประกอบกิจการวิสาหกิจเริ่มต้นในประเทศ เป็นไปอย่างสะดวก ควรมีการจัดตั้งหน่วยงานที่กำกับดูแลวิสาหกิจเริ่มต้น โดยเฉพาะการจัดตั้งหน่วยงานบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จเพื่ออำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือ ในการจัดตั้งธุรกิจวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งหน่วยงานรูปแบบนี้จะลดระยะเวลาและความยุ่งยากในการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 2.ควรให้การสนับสนุนทางการตลาดทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงการขยายกิจการวิสาหกิจเริ่มต้นไปยังตลาดต่างประเทศ 3.ควรให้การสนับสนุนเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะสูงต่อระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นในไทยทั้งการให้งบประมาณหรือการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี

รมว.วท.กล่าวต่อว่า 4.ควรสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนา โดยให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการศึกษาที่คิดค้นนวัตกรรมหรืออาจจัดตั้งกองทุนสำหรับสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 5.ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการระดมทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน6.ส่งเสริมให้มีการสร้างสังคมผู้ประกอบการ โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีและความเป็นผู้ประกอบการรวมถึงสนับสนุนให้ผู้คนในทุกช่วงอายุให้สามารถเป็นผู้ประกอบการได้ และ 7.ให้มีกฎหมายที่เอื้ออำนวยให้เกิดการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมและมีระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นในภาพรวมระดับประเทศ อาทิ กฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว กฎหมายบริษัทจำกัด ทั้งยังควรจัดตั้งศูนย์วิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อให้ข้อมูลและบริการภายในระบบนิเวศของวิสาหกิจเริ่มต้น โดยข้อเสนอดังกล่าวเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ตอัพของประเทศไทยให้สำเร็จในปี 2563 เพื่อให้ไทยเป็นประเทศสตาร์ตอัพให้ได้.

...