ผู้นำเต้นแอโรบิกโอด เขตราชเทวีขอให้ย้ายกิจกรรมจากสวนสันติภาพ ไปริมบึงมักกะสัน เหตุหมอรายหนึ่งร้องเรียนเสียงดังรบกวน ขณะสำนักอนามัยลงพื้นที่ตรวจ พบเสียงดังเกินค่าจริง
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ampantita Didtako ซึ่งเป็นรองหัวหน้าวิทยากรแอโรบิก ได้โพสต์ภาพหนังสือจากสำนักงานเขตราชเทวี ที่ลงนามโดย นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี เรื่องขอให้ย้ายสถานที่จัดกิจกรรมเต้นแอโรบิก ซึ่งผู้โพสต์อ้างว่ามีแพทย์รายหนึ่งเป็นผู้ร้องเรียนไปเขต พร้อมระบุข้อความว่า
“ในสวนสาธารณะที่มีประชาชนจำนวนมากมาออกกำลังกาย มีหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่ประชาชนมาออกกำลังกายแบบแอโรบิกในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และมีกิจกรรมนี้มาหลาย 10 ปี ทุกๆ วันจะมีสมาชิกมาออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นจำนวนมาก ประมาณ 300-400 คน สะดวกในการเดินทางและต่อรถกลับบ้าน แต่คุณหมอท่านนี้ซึ่งมาอาศัยในละแวกนี้ เพียงแค่ 1 ปีหรือน้อยกว่านั้น ได้ร้องเรียนไปยังเขตว่า ให้พวกสมาชิกหลายร้อยคนหยุดกิจกรรมนี้เนื่องจากทำให้เสียงดังหนวกหู รบกวนเวลานอนคุณหมอเพียงคนเดียว ซึ่งเวลา 18.00 น. จนถึง 19.00 น. เป็นเวลาที่ประชาชนหลายร้อยคนต้องตื่นและออกกำลังกาย และทางผู้อำนวยการเขตมีหนังสือมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้ว่า ให้ทำการย้ายกิจกรรมแอโรบิกนี้ไปอยู่ในสวนริมบึงมักกะสัน ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางและแคบมาก ไม่สามารถรองรับประชาชนได้มาก ระยะในการเดินทางก็อาจจะไม่ปลอดภัยจากมิจฉาชีพบางคนซึ่งไม่อาจจะรู้ได้
ดังนั้น ดิฉันฐานะสมาชิกและผู้นำแอโรบิกคนหนึ่ง ขอความกรุณาทางหน่วยงานของรัฐ ช่วยยับยั้งไปทางผู้อำนวยการเขตหยุดคำสั่ง และจดหมายนี้เพื่อประชาชนหลายร้อยคน เพื่อหมอหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่คอนโด และเป็นคนที่อ้างว่าเงินของเขาสามารถที่จะซื้อสวนแห่งนี้ได้ทั้งสวน หรือเงินของคุณหมอท่านนี้อาจจะซื้อที่ทำการเขตไปแล้วก็ได้”
...
ขณะที่หนังสือจากสำนักงานเขตราชเทวี ระบุเนื้อหาว่า หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องเสียงรบกวนจากเครื่องขยายเสียในการเต้นแอโรบิกในสวนสันติภาพ ก็ได้ขอความอนุเคราะห์จากสำนักอนามัยส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบวัดความดังของเสียงเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา พบว่าเกินกว่าค่ามาตรฐานเสียงรบกวน และมีการปรับปรุงตามคำแนะนำสำนักอนามัยแล้ว แต่ยังไม่ลดความดังลง จึงขอย้ายสถานที่จัดกิจกรรมเป็นลานกีฬาสวนริมบึงมักกะสัน ในสวนสาธารณะ สวนราชเทวีภิรมย์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 เป็นต้นไป
ทางด้านชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นในหลากหลายมุม ทั้งไม่เห็นด้วยที่จะมีการย้ายสถานที่จัดกิจกรรมที่มีมานาน แต่บางส่วนก็ออกความเห็นว่าเสียงดังมากจริงๆ และหมออาจจะไม่ได้มีเวลานอนเหมือนคนอื่นเพราะต้องเข้าเวรไม่เป็นเวลา.
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก Ampantita Didtako)