เดินหน้าเต็มสูบ ”คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ประกาศก้องให้ชื่อเสียงของคนไทยสู่ภายนอกประเทศ กว่า 17 โครงการ ผ่านด้านกีฬา-ดนตรี-ชุมชน-การศึกษา-สุขภาพ กระจายทุกภูมิภาคกว่า 500 ชุมชน...
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า โครงการ ”คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” #KINGPOWERTHAIPOWER #พลังคนไทย ในปี 2560 ที่ผ่านมา ได้เดินหน้าโครงการต่างๆ ใช้งบกว่า 400 ล้านบาท เพื่อให้ชื่อเสียงของคนไทยไปสู่ภายนอกประเทศกว่า 17 โครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผลงานของสโมสรเลสเตอร์ขยับขึ้นจากแชมป์เปียนชิพขึ้นสู่ชั้นพรีเมียร์ลีก และก้าวสู่แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในที่สุด ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการกีฬาระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกหันมาจับตามองประเทศไทยในมุมใหม่ โดยเชื่อว่าหากตั้งใจทำอะไรอย่างจริงจัง ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเห็นว่าคนไทยก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้คนทั้งโลกเห็นได้เหมือนกัน จากจุดมุ่งมั่นในครั้งนั้นจึงส่งต่อมาเป็นนโยบายที่นำมาบริหารโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคกว่า 500 ชุมชน ที่ได้นำโครงการฯ เข้าไปจัดกิจกรรม โดยตั้งเป้าหมายที่จะนำกิจกรรมต่างๆ เข้าไปยังชุมชนเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีผ่านมา 3 เท่า โดยยังคงเน้นกิจกรรมผ่าน 4 ด้านหลักของโครงการ ได้แก่ ด้านกีฬา, ด้านดนตรี, ด้านชุมชน และด้านการศึกษา และสุขภาพ
สำหรับด้านกีฬา (SPORT POWER) เน้นคอนเซ็ปต์ ‘ปั้นนักกีฬาไทยสู่ลีกยุโรป’ โดยมุ่งพัฒนาส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศให้มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จึงได้จัดโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย มอบลูกฟุตบอลจำนวน 1 ล้านลูกให้กับเยาวชนไทยและชุมชนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านกีฬา โดยเมื่อปีที่ผ่านมาตั้งแต่กรกฎาคม 2560-กรกฎาคม 2561 ได้มอบลูกฟุตบอลให้กับเด็กไทยทั่วประเทศแล้วเป็นจำนวนกว่า 200,000 ลูก โดยตั้งเป้าแจกให้ครบ 1 ล้านลูกภายในปี 2565
...
นอกจากนี้ยังมีโครงการ 100 สนามพลังเยาวชนไทย ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จำนวน 100 สนามทั่วประเทศภายใน 5 ปี หวังให้เยาวชนมีพื้นที่ออกกำลังกาย ห่างไกลจากยาเสพติด และยังมอบโอกาสให้กับเด็กๆ ที่รักกีฬาได้สานฝันของตัวเองให้เป็นจริง โดยได้ขยายผลโครงการไปสู่กิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยอย่างครบวงจร อาทิ “โครงการ FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม” โดยมอบทุนการศึกษาและให้ฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และสโมสร OH Leuven ของประเทศเบลเยียม เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทยได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป
“FOX HUNT ปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว มีนักเรียนรุ่นแรกประสบความสำเร็จกลับมา 12 คน ได้ไปเล่นในไทยลีก อีก 4 คนไปเล่นที่ OH Leuven ผมหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นคนไทยเตะฟุตบอลในลีกยุโรป”
ส่วนด้าน MUSIC POWER ‘หนุนดนตรีไทยสู่โชว์ระดับนานาชาติ’ ที่ผ่านมา คนไทยเราคุ้นเคยกับ โรงละครอักษรา ในฐานะโรงละครไทยร่วมสมัยที่มีเทคนิคการแสดงแสง สี เสียงได้มาตรฐานเทียบเคียงกับโรงละครชั้นนำระดับโลกเป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าโรงละครแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนศิลปะไทยและดนตรีไทยอันทรงคุณค่าให้เคียงคู่สังคมไทยไปตราบนานเท่านาน และเพื่อไม่ให้ศิลปะไทย อย่างหุ่นละครเล็กและดนตรีไทยกลายเป็นเพียงความงดงามทางวัฒนธรรมที่ถูกมองข้ามไป และเพื่อให้ศักยภาพด้านดนตรีของคนไทยที่ถูกซ่อนไว้ได้เป็นที่ประจักษ์ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้จัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อให้โลกได้รู้พลังด้านดนตรีของคนไทยก็พร้อมอวดโฉมในระดับสากล
รวมถึงการริเริ่มกิจกรรมด้านชุมชน หรือ COMMUNITY POWER ‘บอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี’ เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และของที่ระลึกได้เฉิดฉายในสายตาคนต่างชาติ ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้หลายชุมชนทั่วประเทศ ตลอดจนคนพิการ ซึ่งสามารถและศักยภาพที่ตัวเองมีเติบโตไปพร้อมกับสังคม ยกตัวอย่าง ผลงาน “แก้วเป่า” สินค้า OTOP ที่ขายดีที่สุดในหมวดสินค้าของที่ระลึกจาก คิง เพาเวอร์ โดยผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นเอกนี้ คือ ภพต์ เทภาสิต ประธานสหกรณ์บริการผลิตภัณฑ์คนพิการไทย ซึ่งคิง เพาเวอร์ ได้ให้คำแนะนำในเชิงธุรกิจทำให้อาชีพเป่าแก้วกลายเป็นอาชีพเงินล้าน
ส่วนอีกหนึ่งความสำเร็จของการพาสินค้าชุมชนไปอวดสายตาชาวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ คือ คอลเลกชั่น INDIGO (อินดิโก้) สำหรับเป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจะนำไปวางจำหน่าย ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ผลงานแห่งความภาคภูมิใจนี้ คิง เพาเวอร์ ทำหน้าที่เป็นคู่คิดและคู่ค้าร่วมกับชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร โดยยังคงชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้านไว้ และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า
นอกจากนี้ยังฉีกกรอบการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแบบเดิมๆ ด้วยการสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ผ่าน EDUCATION & HEALTH POWER ‘คุณภาพชีวิตที่ดีต้องมาก่อน’ อย่างโครงการ ‘พลังคนไทย สุขาสุขใจ’ ที่ออกแบบและมอบสุขาในรูปแบบสากล สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคนอย่างแท้จริง สะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อไปติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติครบทุกมิติ
ส่วนด้านการศึกษา ได้ร่วมสร้างอนาคตเด็กไทยผ่านมูลนิธิคิง เพาเวอร์ มายาวนานถึง 13 ปี เพื่อให้เด็กๆ ได้ทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่ โดยการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียน การสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและสร้างห้องสมุด สร้างรากฐานอนาคตที่ดีให้คนไทยมีโอกาสไปหาความรู้ในต่างประเทศเพื่อกลับมาช่วยพัฒนาประเทศ ด้วยการร่วมกับมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับคนไทย
“ผมว่าคำว่า Thai power หรือพลังคนไทย มันชัดเจนมาก เพราะถ้าเราพลังคนไทยมารวมกัน แล้วก็ทำในสิ่งที่ดีต่อสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งที่ดีและสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายอัยยวัฒน์ กล่าว.