คนสนิท เผยฟางเส้นสุดท้ายทำ 'น้องสปาย' หนี หลังถูกเสี่ยอ้วนขู่จะยิง เพราะปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานด้วย จากนั้นเสี่ยจ้างคนมาตีสนิทเพื่อน เพื่ออยากรู้ความเคลื่อนไหว ก่อนตามมายิงทิ้ง 2 ศพ...
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ กระหน่ำยิง น.ส.ปวีณา หรือ สปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือ ฟอส จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เพื่อนสนิท เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ในรายการโหนกระแส มีการเชิญ น.ส.ไอซ์ ญาติของน้องฟอส และยังเป็นคนที่เคยทำงานอยู่กับน้องสปายที่ผับของเสี่ยอ้วน ที่ภูเก็ต
น.ส.ไอซ์ เผยว่า ตอนเด็กๆ ฟอสเป็นสาวประเภทสอง ก่อนจะเริ่มแมนขึ้น ตอนช่วง ม.3 โดยไม่แต่งหญิง โดยทั้งสองคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เขารักกันแบบพี่น้อง ทำอะไรให้กันหลายๆ อย่าง ไปไหนไปกัน
ตนเคยไปอยู่ภูเก็ตกับ 2 คนนี้ โดยสปายไปทำงานที่ผับเสี่ยอ้วน ส่วนฟอส ทำงานอีกผับ ซึ่งเสี่ยอ้วน ชอบน้องสปายบมาก และอยากให้สปายอยู่ในสายตาตลอด ห้ามดื่ม หรือนั่งดริ๊งก์กับใคร ซึ่งสปายตอนที่ทำงานก็มีคนมาชอบเยอะมาก เพราะหน้าตาดี ส่วนเสี่ยอ้วนเคยบอกว่า ชอบสปายที่เป็นเด็กขยัน เพราะตอนทำงาน ก็เก็บเงินให้พ่อแม่ตลอด
ทั้งนี้ สปายเคยลาออก มาแล้วครั้งหนึ่งเพราะอึดอัด ก่อนกลับมาบ้าน และย้อนกลับไปทำงานอีกผับหนึ่ง ในภูเก็ต แต่ก็จะถูกเสี่ยอ้วน คอยระราน โดยตกลงกับเจ้าของร้านไม่ให้น้องสปายทำงานให้ จนไปสมัครที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะไม่มีใครอยากมีปัญหาด้านธุรกิจกับเสี่ยอ้วน กระทั่งน้องต้องหวนกลับมาทำงานกับเสี่ยอ้วนอีกครั้ง
หลังจากกลับมา เสี่ยอ้วน ก็ไม่ให้น้องสปาย ไปนั่งดื่มกับแขก แต่แขกที่มา ก็จะซื้อดื่มให้น้องสปายตลอด เพราะว่าน้องสวย โดยกลับมาทำงานคราวนี้ เสี่ยอ้วนเสนอเงินให้ แลกกับการไม่ต้องทำงาน แต่น้องไม่รับ ขอมาทำงานที่ผับเอง โดยทำหน้าที่เรียกแขกเท่านั้น ไม่มีการเต้น ซื้อนั่งดริ๊งก์
...
มีอยู่ครั้งหนึ่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติเมา แล้วเรียกให้น้องสปายไปรับเครื่องดื่ม เมื่อน้องสปาย เดินไป ทำให้เสี่ยอ้วนไม่พอใจ และให้ตนไปเรียกน้องสปายมา ว่าไม่ต้องทำ เดี๋ยวจะโดนแขกลวนลาม และว่าไม่ต้องทำอะไร เขาก็ให้ได้ หลังจากที่น้องเดินมา เขาก็ควักปืนออกมาวางบนโต๊ะ และว่า เห็นไหม พี่รักของพี่มาก ถ้าพี่ไม่ได้ใครก็ไม่ได้เหมือนกัน พี่จะแต่งงานด้วย พ่อแม่จะเรียกสินสอดเท่าไหร่ก็เรียกมา
เมื่อถามว่า เสี่ยอ้วนเคยหึงสปายกับฟอสหรือไม่ น.ส.ไอซ์ ระบุว่า ไม่เคยเลย กลับเอ็นดู น้องฟอส เหมือนญาติสนิทคนนึงด้วยซ้ำ เพราะเห็นว่าเป็นญาติของสปายด้วย เวลาเลิกงานแล้วก็ชวนสปายกับฟอส ไปเที่ยว ไปกินข้าว
เมื่อถามว่า ทั้งสปาย และฟอส มีโอกาสที่จะมีความรู้สึกพิเศษต่อกันได้หรือไม่ น.ส.ไอซ์ ระบุว่า เขาอาจจะแค่รู้สึกพิเศษต่อกัน เพราะดูแลกันมา แต่ฉันชู้สาว คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งฟอสเคยพูดว่า มีความรู้สึกกับผู้หญิงแบบพิเศษแค่น้องสปายคนเดียว แต่กับคนอื่นคือไม่ เพราะคลุกคลีกันมานาน
เมื่อถามว่า อะไรคือฟางเส้นสุดท้าย น.ส.ไอซ์ เผยว่า ช่วงตี 2 ของวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ชวนกันไปกินข้าว เสี่ยอ้วนได้พาตน กับน้องสปายไปดูบ้านทาวน์เฮาส์ที่ซื้อไว้ และว่าซื้อใหม่เพื่อไว้ใช้เป็นเรือนหอกับน้องสปาย หลังจากนั้น เสี่ยอ้วนก็พาไปดูห้อง และว่าให้ตนมาช่วยทำความสะอาดห้องนอนให้ จากนั้นตนก็เดินออกมาจากห้องก่อน ก่อนที่เสี่ยอ้วน ซึ่งอยู่ในห้องกับน้องสปาย จะรีบเดินมาล็อกประตูห้อง ซึ่งตนก็ไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกัน
จากนั้นประมาณ 10 นาที น้องสปายตะโกนเรียกตนเสียงดัง ตนจึงรีบเดินขึ้นไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องสปายก็ตะโกนออก ให้ช่วยด้วย เพราะเสี่ยอ้วนจะยิงหนู หนูกลัว ตนก็พยายามร้องห้าม แล้วว่าน้องยังเด็ก ให้ค่อยพูดค่อยจากัน ซึ่งตอนนั้นน้องสปายร้องไห้ เพราะกลัว ตนก็ตะโกนเสียงดัง จนเพื่อนบ้านเริ่มเปิดไฟ จนเสี่ยอ้วนดุตนไม่ให้ตะโกน เดี๋ยวเพื่อนบ้านตกใจ อยู่ในนั้นเกือบ 2 ชม. จนเสี่ยอ้วนยอมเปิดประตู
หลังจากออกมาได้ ตนได้ถามน้องสปาย ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร น้องบอกว่า เสี่ยอ้วนถามเรื่องแต่งงาน แต่น้องไม่พร้อมที่จะแต่งงานอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เสี่ยอ้วนโกรธ ซึ่งคืนนั้น เสี่ยอ้วนเมา ซึ่งตอนอยู่ในห้อง น้องสปาย ถูกเสี่ยอ้วนบีบคอ จนช้ำ
จากนั้น น้องก็ขึ้นมากรุงเทพฯ ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งหลังกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว น้องก็ไม่ยอมกลับไปทำงานที่ภูเก็ตอีกเลย เนื่องจากเคยโดนทำร้ายเมื่อวันที่ 13 เมษายน
ส่วนเรื่องเงิน 3 แสน ที่น้องสปายใช้ออกรถนั้น เป็นเงินเก็บของน้องเอง เพราะน้องเคยบอกแล้วว่าจะไม่รับ และเสี่ยอ้วนก็เคยโทรไปหาแม่ แม่ก็บอกว่าไม่รับ แต่เสี่ยอ้วนก็อ้างว่า กลัวเงินเก็บน้องจะหมด พร้อมทั้งโอนเงินไปให้แม่น้องจำนวน 1 ล้านบาท
น.ส.ไอซ์ เล่าต่อว่า หลังจาก น้องสปาย ไม่ยอมกลับไปที่ภูเก็ตอีก เสี่ยอ้วนก็พยายามโทรไปตามคนสนิทของน้อง ว่าน้องสปายอยู่ที่ไหน เหมือนจะตามกลับไปให้ได้ ซึ่งหลังจากนั้น น้องสปาย ไปได้งานที่นครปฐม โดย 1 สัปดาห์ก่อนจะเสียชีวิต น้องสปาย ได้มีการโทรหาน้องฟอส ขอให้ไปอยู่เป็นเพื่อน เนื่องจากไม่สบาย ซึ่งน้องฟอสก็ไป ก่อนจะไปเที่ยววันเกิดที่พัทยา ซึ่งน้องฟอส มีกำหนดที่จะเดินทางไปอยู่กับน้าที่ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 7 สิงหาคมนี้ด้วย แต่มาเกิดเรื่องก่อน
ทั้งนี้ วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่โทรหาตนตอนเวลาประมาณ 18.00 น. แจ้งว่าเกิดเหตุร้ายแรงกับน้องสปาย ซึ่งตนก็บอกว่า ไม่เชื่อ เพราะเพิ่งวางสายจากน้องไปไม่ถึง 20 นาที เนื่องจากตนคุยกันว่า จะไปฉลองวันเกิดกับน้องสปายด้วย ซึ่งตอนนั้นเขาบอกว่าอยู่ชลบุรี แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งรถฮอนด้า ซีอาร์วี ที่ใช้ในการก่อเหตุ ตอนแรกเสี่ยอ้วนจะยกให้น้องสปาย แต่น้องไม่รับ
โดยส่วนตัวตนเชื่อว่า เสี่ยอ้วนน่าจะเป็นคนลงมือยิง เพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์รุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาเมา จะขู่ตลอด แต่ตนก็ยังสงสัยว่า เขารักน้องมาก แต่ทำไมเขาถึงกล้าที่จะฆ่าน้อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า นายสายันต์ ที่เสี่ยอ้วนจ้างมา เพื่อให้มาตีสนิทเพื่อนของน้องสปาย และน้องฟอส บอกอะไรหรือไม่
สุดท้าย ตนก็อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ลงมือมารับโทษ เพราะทางครอบครัวไม่ได้ติดใจ แค่อยากให้เขารับโทษ รับในผลกรรมที่ทำไป.