กองปราบฯ ยกข้อกฎหมาย ป.วิ อาญา ชี้แจงเพิ่มเติม เหตุใดจึงต้องส่งร่าง “น้องหญิง” ชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ...
จากกรณี “น้องหญิง” อายุ 19 ปี สาวดับปริศนาที่ นายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ ให้การตั้งแต่แรกอ้างว่ากระโดดลงจากรถเทรลเลอร์เอง แต่กลับขัดแย้งกับผลชันสูตรจากแพทย์ที่พบว่าถูกของแข็งทุบที่ท้ายทอย ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยพ่อของน้องหญิง เดินทางมาพบกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายอ๊อฟ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รวมทั้งจะนำร่างของ น้องหญิง ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.13 น. วันที่ 1 ส.ค. 61 กองบังคับการปราบปราม ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กอธิบายเพิ่มเติมในส่วนของข้อกฎหมายเพื่อให้ผู้ติดตามข่าวเข้าใจถึงการนำร่างของ น้องหญิง ไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า
“การชันสูตรพลิกศพ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวนตาม ป.วิ อาญา มาตรา 148 ถึงมาตรา 156 การชันสูตรพลิกศพ หมายถึง การตรวจร่างกายของผู้ตายเพื่อให้ทราบสาเหตุตายที่แท้จริง รวมถึงการตรวจชันสูตรเพื่อให้ทราบว่าผู้ตายคือใคร
ป.วิ อาญา มาตรา 154 บัญญัติว่า ให้ผู้ชันสูตรพลิกศพทำความเห็นเป็นหนังสือแสดงและพฤติการณ์ ที่ตาย ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด ถ้าตายโดยคนทำร้าย ให้กล่าวว่าใครหรือสงสัยว่าใครเป็นผู้กระทำผิดเท่าที่จะทราบได้
...
กรณีที่ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ป.วิ อาญา มาตรา 148 บัญญัติว่า เมื่อปรากฏแน่ชัดหรือมีเหตุอันสมควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิกศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย”
การตายโดยผิดธรรมชาตินั้นคือ
(1) ฆ่าตัวตาย
(2) ถูกผู้อื่นทำร้ายให้ตาย
(3) ถูกสัตว์ทำร้ายตาย
(4) ตายโดยอุบัติเหตุ
(5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ
จากบัญญัตินี้จะเห็นว่า กรณีที่ต้องมีการชันสูตรพลิกศพมี 2 กรณี
(1) ตายโดยผิดธรรมชาติหรือสงสัยว่าตายโดยผิดธรรมชาติ
(2) ตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน”
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก กองปราบปราม)