กรมการขนส่งทางบก ยกระดับคุณภาพแท็กซี่ไทย ทำโครงการ “TAXI OK - TAXI VIP” ติด GPS, ปุ่มฉุกเฉิน, กล้องในรถ สร้างมาตรฐาน และความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการ ด้านหนึ่งในผู้โดยสารได้นั่งแล้วชอบ

เพจเฟซบุ๊ก กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News โพสต์ข้อความเรื่องราวโครงการ TAXI OK ซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่ 2561 จากกรมการขนส่งทางบก ที่ต้องการยกระดับคุณภาพแท็กซี่ไทยสู่มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่า สนับสนุนให้เกิดคุณภาพการให้บริการอย่างมืออาชีพ ด้วยแอปพลิเคชันเรียกรถผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมเพิ่มทางเลือกให้บริการแท็กซี่ในระดับที่เหนือกว่าด้วย TAXI VIP สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้ผู้ขับรถ 

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP เพื่อยกระดับความปลอดภัย และการให้บริการของแท็กซี่ไทย ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา กำหนดให้รถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ทุกคันติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย ประกอบด้วย GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ ปุ่มฉุกเฉิน กล้องบันทึกภาพในรถ และเข้าสังกัดกับศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการแท็กซี่ด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก พร้อมอำนวยความสะดวกในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่าน Application เปิดกว้างให้เรียกรถแท็กซี่ในโครงการ TAXI OK ได้ทุกคัน เพื่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบการให้บริการแท็กซี่ทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม และตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิตอล


ทั้งนี้ มีผู้ใช้บริการรายหนึ่งโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Monsicha Rungchawannont หลังการใช้บริการวานนี้ (4 ม.ค. 61) ว่า “วันนี้โบกรถแท็กซี่หน้าตาประหลาด พอขึ้นมาเลยบอกพี่คนขับว่าไฟสวยจังค่ะ ดูเป็นมิตร พี่เขาก็ขำแล้วบอกว่ามันเป็นนโยบายใหม่ของขนส่งเขา รถรุ่นใหม่ที่ขึ้นทะเบียนต้องใช้ไฟสีเขียว ติดกล้องหน้า มีจีพีเอส และที่เด็ดคือมีปุ่ม sos ให้กดด้วยค่ะ! พอกดปุ๊ปสัญญาณจะถูกส่งไปที่ศูนย์เลย คนนั่งฟังแล้วตื่นเต้นมากแต่พี่คนขับไม่ตื่นเต้นเท่าไร บอกตั้งแต่ขับมาไม่ค่อยมีคนกล้าโบกเลย เพราะไม่เหมือนชาวบ้าน หลายครั้งเห็นเขาไม่โบกรถเราแต่ไปโบกคันหลังก็น้อยใจเหมือนกัน ขนส่งเขาก็ไม่ช่วยโปรโมตเลย พอบอกว่าขอกลับไปใช้ไฟว่างสีแดงได้มั้ยเขาก็ไม่ให้... นี่ก็เลยมาช่วยโปรโมตให้เลย! ใครเจอรถไฟว่างสีเขียวโบกได้นะคะ เป็นรถรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่งมีร้อยกว่าคันเองค่ะ พี่คนขับน่ารักมาก อยากให้มีคนเรียกรถพี่เยอะๆ”

...

(ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก Monsicha Rungchawannont)