สิ้นปีระกา ไม่เอ่ยถึงไก่ กระไรอยู่
ณ พ.ศ.นี้ บรรดาไก่ๆทั้งหลายในบ้านเราคงไม่มีไก่ตัวไหนโดดเด่นดังเท่า “เจ้ามณีแดง” ไก่ชนของมานะ บุญโชติ ค่ายชนะชัยฟาร์ม ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีค่าตัวสูงถึง 22 ล้านบาท ยังไม่มีไก่ตัวใดในประวัติศาสตร์ไก่ชนไทยจะมีค่าตัวสูงถึงเพียงนี้
ไก่ชนที่มีค่าตัวรองลงไปและมีขายย้ายค่ายไปแล้ว “แดงปืนกล” มีราคาแค่ 4.4 ล้านเท่านั้นเอง
มณีแดง ค่าตัว 22 ล้าน ถึงวันนี้ยังไม่มีการซื้อขาย...เพราะเจ้าของไว้ทำพ่อพันธุ์
ขายเป็นลูกเจี๊ยบไปได้แล้วกว่า 2,000 คู่ ในราคาคู่ละ 13,000-15,000 บาท...ขายเป็นไข่ให้ลูกค้าเอาไปฟักเอง ฟองละ 3,500-8,000 บาท ถูกแพงขึ้นอยู่กับแม่พันธุ์มีประวัติสายเลือดชนเก่งแค่ไหน
แต่ถ้าลูกค้าเอาแม่พันธุ์มาให้มณีแดงทับ คิดค่าบริการเป็นผลผลิตของน้ำเชื้อ ลูกที่ออกมาคิดราคาตัวละ 7,500 บาท
นับแต่ขึ้นทำเนียบแชมป์ไก่ชนแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ว่ากันว่า มณีแดง ทำรายได้ให้เจ้าของค่ายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 100 กว่าล้านบาท.
...
ทีมข่าวเกษตร
เส้นทางชีวิต...มณีแดง
กว่าจะเป็นไก่ชนที่มีค่าตัวสูงถึง 22 ล้าน ...ว่าไปแล้วเส้นทางชีวิตของ “มณีแดง” ไม่ต่างไปจากซุปเปอร์สตาร์วงการฟุตบอล จากเป็นเด็กเคยเล่นในสนามระดับหมู่บ้าน มีคนเห็นแววชักชวนเข้าสโมสรระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสรเล็กและกลาง เมื่อมีคนใหญ่ คนโตในวงการชื่นชอบในฝีไม้ลายมือ มีแววฉายรุ่ง เป็นถูกซื้อตัวมาเล่นให้สโมสรใหญ่ด้วยราคาแพง ในสนามมาตรฐาน
เจ้ามณีแดงก็เช่นกัน ขณะเป็นไก่รุ่นของชาวบ้านในจังหวัดระยอง สายพันธุ์ไทยก๋อยง่อน (ไก่ภาคเหนือผสมกับไก่เวียดนาม) ร่างกายบึกบึนแข็งแรง หนังหนา เชิงชนดี ตีหนักแรง มีทุกอย่างครบเครื่อง มีแววตีดีมาตั้งแต่ยังรุ่น ถูกซื้อต่อมายังฟาร์มในภาคอีสาน ด้วยราคาแค่หลักพัน โชว์เชิงชั้นตีในสนามแค่นัดเดียว ราคาค่าตัวพุ่งเข้าสู่หลักหมื่น
จากนั้นตีมาเรื่อย จนไฟต์ที่ 4 ขึ้นเวทีมหาลาภ นครราชสีมา ของเจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ พบกับไก่ชนจากค่ายชนะชัยฟาร์ม ในราคาเดิมพันข้างละ 220,000 บาท
มณีแดงได้ชัย เลยได้เป็นเจ้าของค่าตัว 440,000 บาท...มานะ บุญโชติ เจ้าของค่ายผู้พ่ายแพ้เลยเจรจาขอซื้อมาด้วยราคา 700,000 บาท
และแล้ววันเวลาของค่าตัวแพงที่สุดก็มาถึง 18 ต.ค.2558 “มณีแดง” ได้ขึ้นเวทีใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ ณ สนามเทิดไท กทม. พบกับ “ปิ่นเพชร” ในราคาเดิมพันข้างละ 11 ล้านบาท
การต่อสู้ในไฟต์ที่ 5 มณีแดงเอาชนะไปภายใน 2 ยก 4 นาที (44 นาที)...เงินเดิมพันรวมกันของ 2 ฝ่าย นี่แหละเป็นที่มาของค่าตัวไก่ชน 22 ล้าน ที่ยังไม่มีตัวใดลบสถิตินี้ได้
ไก่ชนจะแพงไม่แพง จะมีค่าแค่ไหน... ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเชิงชั้นการตีเท่านั้น
ต้องมีนายทุนและได้โอกาสเข้าคอกค่ายใหญ่ เพื่อเปิดทางไปสู่การโชว์ตัวในสนามใหญ่ มีเงินเดิมพันสูง นั่นแหละถึงจะได้จารึกในประวัติศาสตร์.
วิวัฒนาการ...ไก่ชนไทย
คนไทยรู้จักไก่ชนมาหลายร้อยปี แต่ไก่ชนที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับมากที่สุดในอดีต ต้องยกให้ “ไก่เหลืองหางขาว” เพราะเป็นไก่ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ เป็นไก่ชนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้ตีเอาชนะไก่ชนของพระมหาอุปราชาของพม่า
การคัดเลือกพันธุ์ไก่ชนครั้งอดีตกาล คนไทยมักจะเน้นเรื่องความสวยงาม ลักษณะมงคลต้องตามตำราตามความเชื่อที่สืบต่อกันมาแต่โบราณ...มีทั้ง ประดู่หางดำ, เขียวหางดำ, ประดู่เลาหางขาว, ทองแดงหางดำ, ลายหางขาว, นกกรดหางดำ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นพันธุ์ไก่ไทยแต่โบราณ
มาในปัจจุบัน ช่วง 4-5 ปีหลังมานี่ ความเชื่อ เหล่านี้ได้ลดทอนลงไปมาก เพราะความนิยมได้เปลี่ยนไป หันมานำไก่จากประเทศเพื่อนบ้านมาผสมข้ามสายพันธุ์ เพื่อดึงเอาลักษณะเด่นของแต่ละสายพันธุ์มาอยู่ในตัวเดียวกัน
ไก่ไทย ขึ้นชื่อเรื่องเชิงดี เอาตัวรอดเก่ง หลอกล่อคู่ต่อสู้ดี หาช่องตีได้ยาก แต่ข้อเสีย ตีเบา หนังบาง ไม่ค่อยอึด สายพันธุ์เด่นๆมี ไก่ป่าก๋อย หรือไก่ทางเหนือ ไก่ตราด ไก่พนัสนิคม จากภาคตะวันออก
ไก่พม่า ตีดี แม่น เร็ว ถนัดตีจุดยุทธศาสตร์ หู ตา มีข้อเสีย โครงสร้างเล็ก กระดูกอ่อน ไม่ทรหด อดทน...ไก่เวียดนาม หรือไก่ไซ่ง่อน เป็นไก่กระดูกดี ปอดใหญ่ ตีอึด ใจสู้ ตัวใหญ่ หนังหนาเหนียว แรงเยอะ ข้อเสีย ลีลาตีชักช้าอืดอาด
ไก่ส่วนใหญ่ในสนามวันนี้ จึงมักมีเลือดไก่เวียดนามผสมกับไก่ชนพันธุ์อื่น เพราะต้องการจุดเด่นในเรื่องตัวใหญ่ หนังหนา แรงเยอะ ตีอึด เป็นพื้นฐาน
ไก่ชน “มณีแดง” เจ้าของค่าตัวแพง 22 ล้าน ก็เช่นกัน มีเลือดผสมไก่เวียดนามกับไก่ภาคเหนือของไทย.
ไก่ชนตลาดหุ้นคนจน
ในขณะที่หลายคนมองกีฬาชนไก่เหมือนเอาสัตว์มาทารุณ แล้วเดิมพันพนันขันต่อเพื่อความสนุก แต่ในสายตาของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ บิ๊กบอสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่วันนี้ผันชีวิตมามีความสุขกับไก่ชนตัวเก่ง “แคนดิดซ์” ไก่ชนเลือดผสมไก่ชนพม่ากับไก่ชนเวียดนาม...กลับมองต่างมุม
“มองสนามไก่ชนก็เหมือนตลาดหลักทรัพย์ของคนจนคนชนบท ไม่ใช่สถานที่พนันเสมอไป แต่มันเป็นมากกว่านั้น มันคือที่ปลดเปลื้องทุกข์ สร้างความสุขเฮฮาตามประสาชาวบ้านแลกเปลี่ยนความรู้ทัศนะ ชาวบ้านทำนาทำไร่ทำสวนเสร็จจะมีสักกี่ที่ให้ผ่อนคลาย ไม่เหมือนคนเมืองเข้าห้างดูหนังฟังเพลงทำไมต้องไปจำกัดให้ตีไก่ในสนามได้เดือนละเท่านั้นครั้งเท่านี้ครั้ง แทนที่จะสนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงไก่ชน เลี้ยงหลายๆตัว ตัวดีก็เอาไปตี ที่ไม่มีแววก็เป็นอาหาร นี่ไม่ใช่สนับสนุนให้เล่นการพนัน แต่สนับสนุนให้ชาวบ้านรู้จักเอาไก่มาเพิ่มมูลค่า เพราะยิ่งตีดี ตีเก่ง ยิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรหลายคนลืมตาอ้าปากได้”
เพราะไก่ชนราคาแค่หลักร้อย ถ้าผสมคัดเลือกพันธุ์ได้ดี ตีชนะหลายครั้ง...ชีวิตเกษตรกรจะขยับฐานะได้ไม่ต่างคนถูกหวย
ไม่เพียงจะขายไก่ได้ราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แถมยังขายไข่ ขายลูกเจี๊ยบ ได้ราคางามอย่างคาดไม่ถึง.