ย้ำไม่เปลี่ยนสถานะครู-บุคลากร มอบอนุ กก.ดูร่างตั้งกระทรวงอุดมฯ
ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการอิสระฯได้พิจารณาการจัดการศึกษารูปแบบโรงเรียนนิติบุคคล โดยมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ที่มี ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นประธาน เสนอเรื่องการจัดการศึกษารูปแบบโรงเรียนนิติบุคคลเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าภายในต้นปีหน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาของคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา ที่มี ศ.นพ.อุดม คชินทร เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้มีความเห็นที่หลากหลาย แต่ยังไม่ได้มีมติหรือข้อสรุปใดๆ เนื่องจากเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีการจัดทำก่อนที่จะมีคณะกรรมการอิสระฯ ดังนั้น ที่ประชุมจะรวบรวมข้อเสนอต่างๆให้คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พิจารณาสรุปเสนอรัฐบาลต่อไป
ด้าน ดร.ไพรินทร์กล่าวว่า โรงเรียนต้องเป็นนิติบุคคลมีความอิสระในการบริหารตนเอง 4 ด้าน ได้แก่ วิชาการ การเรียนการสอน งบประมาณ และบริหารงานทั่วไป และจากการรับฟังความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจัดการศึกษารูปแบบโรงเรียนนิติบุคคล แต่โรงเรียนของรัฐมีความพร้อมและบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯจึงได้เสนอให้แบ่งกลุ่มโรงเรียนตามขนาดของโรงเรียนเป็นกลุ่ม ได้แก่ โรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม โรงเรียนกลุ่มการศึกษาพิเศษ โรงเรียนกลุ่มเครือข่าย/สหวิทยาเขต โรงเรียนกลุ่มที่ไม่มีการเปลี่ยนสถานะ โรงเรียนกลุ่มพิเศษ โรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุน และโรงเรียนเอกชนที่ไม่รับเงินอุดหนุน เป็นต้น และให้ทยอยเข้าสู่รูปแบบโรงเรียนนิติบุคคลตามความพร้อม โดยจะมีการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมโรงเรียนนิติบุคคลขึ้นดูแล
...
“โรงเรียนที่มีความพร้อมสามารถแปรสภาพเป็นนิติบุคคลได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานะของครูหรือข้าราชการ ดังนั้น บุคลากรไม่ต้องกังวลเรื่องของสถานภาพ ส่วนโรงเรียนที่ยังไม่แปรสภาพเป็นนิติบุคคลซึ่งจะเป็นกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กนั้น จะยังขึ้นตรงกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ) ต่อไป” ดร.ไพรินทร์กล่าว.