สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารี รัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดงาน “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 69 ตอกย้ำไทยศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญของโลก คาดมีนักธุรกิจค้าอัญมณีฯจากทั่วโลกมาเจรจาซื้อขาย โดยเฉพาะการซื้อขายพลอยสีที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ของโลก รวมทั้งผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 4 หมื่นคน สร้างเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อบ่ายวันที่ 21 ก.พ. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Bangkok Gems and Jewelry Fair) ครั้งที่ 69 จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้า ระหว่างประเทศ นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมรับเสด็จ

โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรการแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องประดับแล้วทรงตัดริบบิ้นเปิดงาน จากนั้นทรงเยี่ยมชมนิทรรศการ Heirlooms of Elegance นิทรรศการจัดแสดงคอลเลกชันจิวเวลรี่ชั้นสูง ที่ทรงออกแบบ สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือของ Beauty Gems ที่สะท้อนถึงคุณค่าของเครื่องประ ดับอันเป็นมรดกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักออกแบบรุ่นใหม่ รวมทั้งสะท้อนถึงพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทยให้ดำรงอยู่สืบไปสู่อนาคต ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่สากล ก่อนเสด็จฯกลับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ เสด็จเยี่ยมชมคูหาของผู้จัดแสดงสินค้าภายในงานด้วย

นายภูมิธรรมกล่าวว่า งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จัดมาอย่างต่อเนื่องถึงกว่า 40 ปีถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย เป็นเวทีการค้านานาชาติที่มีความสำคัญติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก การจัดงานครั้งนี้มีผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,100 บริษัท 2,500 คูหา มีนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจมากมาย คาดหมายว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 40,000 คน จากทั่วโลกตลอด 5 วันของการจัดงานและคาดการณ์มีมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านบาท สำหรับงานนี้จะมีถึงวันที่ 25 ก.พ.

ด้านนายภูสิตกล่าวว่า การจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 69 เพื่อตอกย้ำไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก งานนี้เป็นเวทีการค้าสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ เพราะปี 2566 ไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้สูงมากเป็นอันดับ 3 ของสินค้าส่งออกของไทย มูลค่าส่งออกอัญมณีฯ (รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) อยู่ที่ 14,787 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป อยู่ที่ 8,808.49 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9.61% เมื่อเทียบกับปี 2565 นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และแรงงานทั้งระบบเกือบ 800,000 คน

ขณะที่นายสุเมธกล่าวว่า งานนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของผู้ค้าสินค้าอัญมณีฯจากทั่วโลกที่จะมาเจรจาการค้าและสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการซื้อขายพลอยสี ที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก คาดว่างานนี้จะสร้างมูลค่าการค้าได้ไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านบาท

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่